คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ประกันทำสัญญาประกันจำเลยทั้งสองไว้ต่อศาลชั้นต้น เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งนัดพร้อมหรือฟังคำพิพากษา ผู้ประกันทราบนัดแล้วจึงมีหน้าที่ต้องนำส่งจำเลยทั้งสองตามนัด ความเข้าใจผิดของผู้ประกันเกี่ยวกับการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลไม่เป็นเหตุอันสมควรที่ศาลจะลดค่าปรับให้ และเมื่อนับตั้งแต่วันผู้ประกันทราบหมายนัดของศาลให้นำเงินไปชำระค่าปรับจนถึงวันที่ผู้ประกันยื่นคำร้องขอลดค่าปรับเป็นเวลา ถึง 2 ปีเศษผู้ประกันก็ไม่นำจำเลยทั้งสองไปศาล แสดงว่าผู้ประกันไม่ได้พยายามที่จะปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาประกัน จึงไม่มีเหตุที่จะลดค่าปรับให้ผู้ประกัน.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497นายเลี้ยง แซ่ภู่ ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ปล่อยจำเลยทั้งสองชั่วคราวในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นอนุญาตโดยตีราคาค่าประกันคนละ 100,000 บาท ผู้ประกันได้ทำสัญญาประกันและมอบฉันทะให้จำเลยที่ 1 ส่งตัวจำเลยทั้งสองต่อศาลตามนัด ฟังคำสั่งศาลและทราบนัดของศาล ต่อมาจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ และโจทก์จำเลยทั้งสองแถลงต่อศาลชั้นต้นว่าจำเลยทั้งสองตกลงชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 89,953 บาท โดยผ่อนชำระ และขอให้ศาลเลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปนัดพร้อมหรือฟังคำพิพากษาวันที่ 28มกราคม 2528 เวลา 8.30 นาฬิกา เมื่อถึงกำหนดนัดดังกล่าวจำเลยทั้งสองและผู้ประกันไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยทั้งสองและผู้ประกันมิได้มาศาลโดยมิได้แจ้งเหตุขัดข้อง ถือว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน ให้ปรับผู้ประกันตามสัญญาประกัน
ผู้ประกันยื่นคำร้องว่า ผู้ประกันเป็นพี่เขยจำเลยมีการศึกษาน้อย ไม่มีเจตนาผิดสัญญาประกัน แต่เนื่องจากผู้ประกันสำคัญผิด และไม่เข้าใจกระบวนพิจารณาของศาล กล่าวคือจำเลยทั้งสองได้รับสารภาพและยินยอมชำระเงินเป็นรายเดือนแก่โจทก์ ศาลเลื่อนฟังคำพิพากษาไปผู้ประกันเข้าใจว่าไม่ต้องไปศาลจนกว่าจำเลยจะผ่อนชำระเงินทั้งหมดแก่โจทก์ จึงมาแถลงต่อศาลอีกครั้งหนึ่ง เรื่องก็คงเสร็จไป บัดนี้จำเลยได้ชำระเงินแก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว และโจทก์ได้ถอนฟ้องจำเลยทั้งสองแล้ว ขอให้ลดค่าปรับ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ตั้งแต่ศาลสั่งปรับผู้ประกันจนถึงบัดนี้เป็นเวลาถึงสองปีเศษ ผู้ประกันมิได้ขวนขวายนำจำเลยทั้งสองมาส่งศาลทั้ง ๆ ที่ผู้ประกันเป็นพี่เขยจำเลยที่ 1 แต่การที่โจทก์ถอนฟ้องโดยจำเลยไม่ค้าน สมควรลดค่าปรับลง คงปรับเพียง 75,000 บาท
ผู้ประกันยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า จำเลยทั้งสองได้ชำระเงินให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว และโจทก์ได้ถอนฟ้องจำเลยทั้งสองตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2530 ขอให้ลดค่าปรับลงในอัตราที่ต่ำสุดอีกจากยอดเงิน 75,000 บาท และขอขยายระยะเวลาชำระค่าปรับ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ไม่มีเหตุสมควรที่จะลดค่าปรับ แต่ให้ขยายระยะเวลาชำระค่าปรับไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2530
ผู้ประกันอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับผู้ประกันห้าหมื่นบาทนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้น
ผู้ประกันฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหามาสู่การวินิจฉัยของศาลฎีกาว่า มีเหตุสมควรที่จะลดค่าปรับให้ผู้ประกันได้อีกหรือไม่ คดีนี้ผู้ประกันฎีกาอ้างเหตุขอลดค่าปรับว่าจำเลยทั้งสองได้ชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนก่อนที่จะฟังคำพิพากษาและโจทก์ถอนฟ้องจำเลยทั้งสองแล้วกับผู้ประกันไม่เข้าใจกฎหมายวิธีพิจารณาความ เห็นว่า ผู้ประกันทำสัญญาประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น ในสัญญาประกันข้อ 2 ระบุไว้ว่าในระหว่างประกันผู้ประกันจะขอปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียกของเจ้าพนักงาน หรือศาล มิฉะนั้นผู้ประกันยอมรับผิดชอบใช้เงินจำนวนคนละ 100,000 บาท ให้แก่ศาลจนครบ กรณีถือได้ว่าผู้ประกันได้ทราบข้อความดังกล่าวแล้ว และเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งนัดพร้อมหรือฟังคำพิพากษา ผู้ประกันทราบนัดแล้วผู้ประกันจึงต้องมีหน้าที่นำส่งจำเลยทั้งสองต่อศาลชั้นต้นตามนัด ความเข้าใจผิดของจำเลยหรือผู้เอาประกันเกี่ยวกับการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลไม่เป็นเหตุอันสมควรที่ศาลจะลดค่าปรับให้ สำหรับเหตุที่จำเลยทั้งสองชำระหนี้และโจทก์ถอนฟ้องนั้น ได้ความว่า ศาลสั่งปรับผู้ประกันแล้ว จำเลยทั้งสองยังชำระหนี้ให้แก่โจทก์ไม่ครบ และโจทก์ถอนฟ้องจำเลยทั้งสองก่อนผู้ประกันมายื่นคำร้องขอลดค่าปรับเพียง 3 วันเท่านั้น นอกจากนี้ตามรายงานเจ้าหน้าที่ลงวันที่ 21 มีนาคม 2528 ผู้ประกันได้รับหมายนัดให้นำเงินค่าปรับไปชำระต่อศาลแล้ว ผู้ประกันไม่ชำระและไม่ดำเนินการใด ๆ จนศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีเมื่อวันที่ 24เมษายน 2528 ผู้ประกันมายื่นคำร้องขอลดค่าปรับวันที่ 13 สิงหาคม2530 เมื่อนับตั้งแต่วันผู้ประกันทราบหมายนัดของศาลให้นำเงินไปชำระค่าปรับจนถึงวันที่ผู้ประกันยื่นคำร้องขอลดค่าปรับเป็นเวลา 2ปีเศษ ผู้ประกันก็ไม่นำจำเลยทั้งสองไปศาลแสดงว่าผู้ประกันไม่ได้พยายามที่จะปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาประกัน จึงไม่มีเหตุที่จะลดค่าปรับให้ผู้ประกันอีก ที่ศาลอุทธรณ์ลดค่าปรับให้ผู้ประกันไปแล้วนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นคุณแก่ผู้ประกันมากแล้ว ฎีกาผู้ประกันฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share