คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2135/2533

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์แก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อยเกี่ยวกับจำนวนหนี้ที่จำเลยทั้งสองค้างชำระถึงวันฟ้องว่ามีมากกว่าจำนวนหนี้ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย โดยขอให้แก้ไขจำนวนเงินเพิ่มจากเดิมถึงสองหมื่นบาทเศษ ดังนี้ ข้อที่โจทก์ขอแก้ไขมิใช่ข้อผิดพลาดหรือผิดหลงเล็กน้อยตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 วรรคแรก ศาลอุทธรณ์จึงไม่มีอำนาจแก้ไข

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 1,543,874.60 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 1,498,608.41 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ โจทก์และจำเลยที่ 2อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์มีสิทธิคิดค่าเสียหายเป็นดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 16-17 ต่อปี ในจำนวนหนี้ค้างชำระจำนวน1,498,608.41 บาท นับแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2527 ถึงวันที่12 มกราคม 2528 หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ยได้ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีเป็นยอดหนี้ถึงวันฟ้องรวม 1,542,827.30 บาท พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 1,542,827.30 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน1,498,608.41 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีถึงที่สุด โจทก์ยื่นคำร้องว่า โจทก์ได้คำนวณจำนวนเงินที่จำเลยทั้งสองต้องชำระแก่โจทก์ตามคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์แล้วปรากฏว่ามีหนี้ถึงวันฟ้องเป็นเงิน 1,563,767.08 บาท และดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับถัดจากวันฟ้องถึงวันชำระ คือวันที่ 14 กรกฎาคม2532 เป็นเงิน 476,680.65 บาท รวมเป็นเงิน 2,040,447.73 บาทแต่จำเลยวางเงินต่อศาลเพื่อชำระหนี้เพียง 2,018,532.83 บาท ยังขาดอยู่อีก 21,914.90 บาท โจทก์เห็นว่า ศาลอุทธรณ์ลงตัวเลขจำนวนยอดหนี้รวม ณ วันฟ้องคลาดเคลื่อนซึ่งเป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อย ขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแก้ไขตัวเลขจำนวนเงินยอดรวมดังกล่าวตามที่โจทก์คิดคำนวณได้ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์มิใช่เป็นเรื่องมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย หรือข้อผิดหลงเล็กน้อยอื่น ๆ กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 143 จึงไม่อาจจะแก้ไขให้โจทก์ตามคำร้องได้ ให้ยกคำร้องโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่าคำร้องของโจทก์โต้เถียงจำนวนหนี้ที่จำเลยทั้งสองจะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำนวนหนี้ที่จำเลยทั้งสองค้างชำระถึงวันฟ้องมีมากกว่าจำนวนหนี้ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย โดยขอให้แก้ไขจำนวนเงินจาก 1,542,827.30บาท เป็น 1,563,767.08 บาท เพิ่มจากเดิมถึงสองหมื่นบาทเศษมิใช่ข้อผิดพลาดหรือผิดหลงเล็กน้อยตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 วรรคแรก ซึ่งศาลอุทธรณ์ที่พิพากษาคดีจะแก้ไขได้ คำสั่งศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share