คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 153 การขยายระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 119 แห่งกฎหมายล้มละลาย จะพึงกระทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษและผู้ร้องมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลา 14 วันเว้นแต่ในกรณีมีเหตุสุดวิสัย เมื่อผู้ร้องมิได้ปฏิเสธหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ต้องถือว่าผู้ร้องเป็นหนี้กองทุนของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) แจ้งไปเป็นการเด็ดขาดตามมาตรา 119 การที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอปฏิเสธหนี้เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาโดยอ้างว่าทนายความผู้ได้รับมอบหมายจากผู้ร้องแล้วไม่ดำเนินการให้ผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด มิใช่กรณีเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23 ที่ศาลจะสั่งขยายระยะเวลาให้ผู้ร้องได้

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทราชาเงินทุนจำกัด ลูกหนี้ (จำเลย) แล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย)ตรวจสอบหลักฐานแล้วปรากฏว่าผู้ร้องเป็นหนี้กองทุนบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) อยู่จำนวนหนึ่งพร้อมด้วยดอกเบี้ย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย)จึงมีหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องชำระหนี้ดังกล่าวภายใน 14 วัน ผู้ร้องได้รับหนังสือดังกล่าวแล้วแต่ผู้ร้องไม่ชำระหนี้และมิได้ปฏิเสธหนี้ ต่อมาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้(จำเลย) ได้มีหนังสือเตือนให้ผู้ร้องชำระหนี้ ผู้ร้องจึงมาร้องคัดค้านว่าผู้ร้องมิได้จงใจที่จะละเลยการตอบปฏิเสธหนี้แต่ผู้ร้องไม่อาจยื่นหนังสือปฏิเสธหนี้ได้ทันกำหนดเวลาเป็นเพราะความผิดของทนายความซึ่งผู้ร้องมอบเรื่องให้ ที่ไม่ดำเนินการให้ผู้ร้องตามกำหนด ผู้ร้องมิได้เป็นหนี้บริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ผู้ร้องขอปฏิเสธความถูกต้องแท้จริงของหลักฐานแห่งหนี้ ดังนี้การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) เตือนให้ผู้ร้องชำระหนี้แก่กองทุนของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) จึงทำให้ผู้ร้องเสียหาย ขอให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) และกำหนดระยะเวลาใหม่ให้ผู้ร้องยื่นหนังสือปฏิเสธหนี้

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) คัดค้านว่าเมื่อครบกำหนด14 วันตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) แจ้งให้ทราบแล้วผู้ร้องไม่ชำระหนี้และไม่ปฏิเสธหนี้ ต้องถือว่าผู้ร้องเป็นหนี้ตามจำนวนนั้นเป็นการเด็ดขาดตามมาตรา 119 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 การที่ทนายความของผู้ร้องไม่ดำเนินการให้ไม่เป็นเหตุให้ผู้ร้องพ้นจากความรับผิด ขอให้ยกคำร้อง

ศาลชั้นต้นสั่งงดไต่สวนและมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153 การขยายระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 119 แห่งกฎหมายล้มละลายจะพึงทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษและผู้ร้องมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลา 14 วัน เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยเมื่อมิได้มีการปฏิเสธหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ต้องถือว่าผู้ร้องเป็นหนี้กองทุนของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) แจ้งไปเป็นการเด็ดขาดตามมาตรา 119 ที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาแล้วเช่นนี้เห็นว่าการที่ทนายความผู้ได้รับมอบหมายจากผู้ร้องแล้วไม่ดำเนินการให้ผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดตามที่ผู้ร้องอ้างในคำร้องขอนั้นไม่ใช่กรณีเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23ที่ศาลจะสั่งขยายระยะเวลาให้ผู้ร้องได้

พิพากษายืน

Share