คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2109/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุขึ้นก่อนโดยผลักจำเลยล้มและตามไปฉุดจำเลยขึ้นมา กับล้วงมีดซุยสรวมปลอกหนังแทงจำเลยทั้งปลอกหลายที และใช้ด้ามมีดเคาะศีรษะจำเลยโดยแรง 1 ที ตัวมีดหลุดจากปลอก จำเลยหยิบมาถือไว้ ผู้ตายเข้าไปชุลมุนกับจำเลยเมื่อจำเลยใช้มีดแทงผู้ตายไปดังนี้ได้ชื่อว่ากระทำโดยบันดาลโทสะเพราะเหตุถูกกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มีดแทงนายอูมาร์ซาตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษตามมาตรา 249

จำเลยปฏิเสธว่ามิได้กระทำผิดดังโจทก์หา

ศาลอาญาฟังว่า จำเลยฆ่านายอูมาร์ซาตายโดยไม่เจตนา พิพากษาจำคุกจำเลย 7 ปีตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251 ประกอบด้วยมาตรา 55 ลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่านายอูมาร์ซาผลักจำเลยล้มและตามไปฉุดจำเลยขึ้นมากับล้วงมีดซุยสรวมปลอกหนังจากเอว นายเพิ่มศักดิ์ร้องห้ามนายอูมาร์ซา ๆ ไม่เชื่อ ได้ใช้มีดทั้งปลอกแทงตามร่างกายจำเลยหลายที และใช้ด้ามมีดเคาะศีรษะ จำเลยโดยแรงอีก 1 ที เป็นเหตุให้ตัวมีดหลุดจากปลอกตกพื้น จำเลยเก็บมาถือไว้ นายอูมาร์ซาเข้าไปชุลมุนกับจำเลย ๆ จึงใช้มีดนั้นแทงถูกนายอูมาร์ซา 1 ทีดังนี้ จำเลยกระทำไปโดยบันดาลโทสะ เพราะถูกกดขี่ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม พิพากษายืน

Share