คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2102/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

่จำเลยถ่มน้ำลายไปทางผู้เสียหายและด่าผู้เสียหายว่า พวกอีดอกดำ คำว่า อีดอก เป็นถ้อยคำหยาบคาย สามัญชนฟังแล้วเข้าใจได้ชัดเจนอยู่ในตัวเองว่าผู้ถูกด่าเป็นหญิงไม่ดี จำเลยจึงมีความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยถ่มน้ำลายและด่านางเพ็ญศรีว่า พวกอีดอกดำ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๓ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๑ ข้อ ๙
จำเลยให้การว่าไม่ได้กระทำผิด ฟ้องเคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๓ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๑ ข้อ ๙ ปรับ ๕๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่า ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวไม่ใช่ถ้อยคำดูหมิ่นซึ่งหน้า
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยกับผู้เสียหายมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน ในวันเกิดเหตุ ผู้เสียหายกับคนอื่น ๆ นั่งคุยกันอยู่ที่หน้าบ้านนางฮ้อขณะจำเลยเดินผ่านหน้าบ้านนางฮ้อห่างผู้เสียหายประมาณ ๑ เมตรเศษ จำเลยถ่มน้ำลายไปทางผู้เสียหายแล้วกล่าวคำด่าผู้เสียหายว่า “พวกอีดอกดำ” แล้ววินิจฉัยว่า คำว่า “อีดอก” เป็นถ้อยคำที่หยาบคาย สามัญชนฟังแล้วเข้าใจได้ชัดเจนอยู่ในตัวเองว่าผู้ถูกด่าเป็นหญิงไม่ดีจำเลยมีความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า
พิพากษายืน.

Share