คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระราคาค่าเสาเข็มที่จำเลยสั่งซื้อจากโจทก์รวม2ขนาดจำนวน14ต้นจำเลยให้การและฟ้องแย้งว่าจำเลยสั่งซื้อเสาเข็มจากโจทก์อีกจำนวนหนึ่งซึ่งมิใช่เสาเข็มที่โจทก์ฟ้องพร้อมกับจ้างโจทก์ตอกเสาเข็มที่จำเลยสั่งซื้อจากโจทก์นั้นด้วยแต่โจทก์ตอกเสาเข็มที่จำเลยสั่งซื้อดังกล่าวผิดตำแหน่งที่กำหนดไป10ต้นเป็นเพราะความผิดของโจทก์โจทก์และจำเลยจึงตกลงกันให้จำเลยสั่งเสาเข็มมาตอกให้ใหม่โดยไม่ต้องชำระราคาและค่าตอกเสาเข็มอีกเสาเข็มจำนวน10ต้นที่โจทก์กล่าวในคำฟ้องเป็นเสาที่ส่งมาทดแทนการตอกผิดพลาดของโจทก์รวมกับที่จำเลยสั่งมาใหม่อีก4ต้นจำเลยชำระค่าเสาเข็มและค่าตอกไปเกินกว่าราคาที่จำเลยต้องชำระแก่โจทก์และเสาเข็มที่โจทก์ตอกนั้นหักและเอียงจากแนวตั้งฉาก29ต้นจำเลยแจ้งให้โจทก์แก้ไขแต่โจทก์เพิกเฉยจำเลยจึงต้องจ้างให้ผู้อื่นมาดำเนินการต้องเสียค่าใช้จ่ายรวมทั้งเสาเข็มที่จำเลยสั่งซื้อใหม่4ต้นโจทก์ก็ไม่ยอมยกลงจากรถยนต์บรรทุกเพื่อส่งมอบตามสัญญาจำเลยต้องจ้างผู้อื่นมาดำเนินการทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเมื่อหักกลบลบกันโจทก์ต้องชำระเงินแก่จำเลยจึงขอให้พิพากษายกฟ้องโจทก์และให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยพร้อมทั้งดอกเบี้ยจะเห็นได้ว่ามูลคดีที่โจทก์ฟ้องและที่จำเลยฟ้องแย้งเกิดจากสัญญาซื้อขายเสาเข็มแม้ตามฟ้องแย้งจะได้กล่าวถึงสัญญาจ้างตอกเสาเข็มด้วยแต่เสาเข็มตามจำนวนที่โจทก์ฟ้องก็เป็นส่วนหนึ่งของเสาเข็มที่จำเลยสั่งซื้อจากโจทก์นั่นเองเมื่อจำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยไม่ต้องชำระค่าเสาเข็มจำนวน10ต้นนั้นเนื่องจากเป็นเสาเข็มที่โจทก์จะต้องรับผิดชอบในการตอกเสาเข็มที่ผิดจากตำแหน่งที่กำหนดให้เป็นเสาเข็มที่โจทก์ส่งมาทดแทนส่วนอีก4ต้นที่จำเลยสั่งซื้อเพิ่มเติมก็เกี่ยวเนื่องกับการตอกเสาเข็มที่ผิดพลาดจึงต้องตอกเสาเข็มเพิ่มขึ้นและเมื่อนำมาส่งแล้วโจทก์ไม่ยอมยกลงมาจากรถยนต์ที่บรรทุกมาอันเป็นการผิดสัญญาทำให้จำเลยได้รับความเสียหายจึงเป็นฟ้องแย้งที่เกี่ยวข้องกับคำฟ้องเดิมมิใช่เรื่องอื่น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2532 จำเลยที่ 2ในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้แทนของจำเลยที่ 1 สั่งซื้อเสาเข็มคอนกรีตขนาด .40 x .40 x 15 เมตร จำนวน 10 ต้น ราคาต้นละ 7,800 บาทและขนาด .35 x .35 x 10 เมตร จำนวน 4 ต้น ราคาต้นละ 6,000 บาทไปจากโจทก์เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 102,000 บาท โจทก์ส่งมอบเสาเข็มดังกล่าวให้จำเลยทั้งสองแล้ว แต่จำเลยทั้งสองไม่ชำระราคาให้โจทก์ทำให้โจทก์เสียหายคิดเป็นดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2532 ซึ่งเป็นวันผิดนัดเป็นต้นไปจนถึงวันฟ้องเป็นเงิน 2,550 บาท ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินให้โจทก์ 104,550 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน 102,000 บาท นับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสองให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2สั่งซื้อเสาเข็มขนาด .40 x .40 x 15 เมตร จำนวน 144 ต้นราคาต้นละ 7,800 บาท และขนาด .40 x .40 x 16 เมตร จำนวน98 ต้น ราคาต้นละ 8,400 บาท จากโจทก์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น1,946,400 บาท พร้อมกับได้จ้างโจทก์ตอกเสาเข็มดังกล่าวด้วยในอัตราร้อยละ 1,000 บาท คิดเป็นค่าตอกเสาเข็ม 242,000 บาทแต่โจทก์ส่งมอบเสาเข็มขนาด .40 x .40 x 15 เมตร จำนวน 147 ต้นและขนาด .40 x .40 x 16 เมตร จำนวน 95 ต้น คิดเป็นเงินจำนวน1,944,600 บาท และโจทก์ตอกเสาเข็มขนาด .40 x .40 x 15 เมตรผิดตำแหน่งไป 10 ต้น อันเป็นความผิดของโจทก์ โจทก์และจำเลยทั้งสองจึงตกลงกันให้จำเลยทั้งสองสั่งเสาเข็มขนาดดังกล่าวมาตอกใหม่ให้ตรงกับตำแหน่งที่กำหนด โดยไม่ต้องชำระราคาและค่าตอกเสาเข็มอีก กับจำเลยทั้งสองได้สั่งซื้อเสาเข็มขนาด .35 x .35 x 15 เมตรเพิ่มอีก 4 ต้น ราคาต้นละ 6,000 บาท เป็นเงิน 24,000 บาทรวมเป็นค่าเสาเข็มที่จำเลยทั้งสองต้องชำระทั้งสิ้น 1,968,600 บาทสำหรับค่าตอกเสาเข็มโจทก์ตอกให้จำเลยทั้งสองเพียง 232 ต้นส่วนเสาเข็ม 10 ต้น ที่ส่งมาทดแทนการตอกผิดพลาดของโจทก์กับที่จำเลยทั้งสองสั่งมาใหม่อีก 4 ต้น โจทก์ไม่ยอมตอกให้จำเลยทั้งสองจึงรับผิดค่าตอกเพียง 232,000 บาท รวมเป็นเงินที่จำเลยทั้งสองต้องชำระให้โจทก์ทั้งสิ้น 2,200,600 บาท จำเลยทั้งสองชำระให้โจทก์แล้วเป็นเงิน 2,022,720 บาท เกินกว่าค่าเสาเข็มที่ต้องชำระไป 54,120 บาท เมื่อหักกับค่าตอกเสาเข็มที่จำเลยทั้งสองต้องชำระแล้ว จำเลยทั้งสองค้างชำระค่าตอกเสาเข็มเป็นเงิน177,880 บาท แต่โจทก์ตอกเสาเข็มหัก 29 ต้น และหนีศูนย์หรือเอียงไปจากแนวตั้งฉากที่กำหนดไว้เป็นจำนวน 9 ฐาน จำเลยทั้งสองได้แจ้งให้โจทก์ดำเนินการแก้ไขแล้ว แต่โจทก์ไม่แก้ไขให้จำเลยทั้งสองจึงต้องจ้างบริษัท เอส.ที.วี.คอนสตรัคชั่น จำกัดแก้ไขส่วนที่เสียหายเป็นเงิน 813,400 บาท ซึ่งโจทก์ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวให้จำเลยทั้งสอง นอกจากนี้เสาเข็มที่จำเลยทั้งสองสั่งซื้อเพิ่มทดแทนเสาเข็มที่โจทก์ตอกผิด 10 ต้นโจทก์ไม่ยอมตอกให้ จำเลยทั้งสองต้องจ้างบุคคลภายนอกตอกเสาเข็มเป็นเงิน 27,000 บาท และในการส่งเสาเข็มดังกล่าวกับเสาเข็มที่จำเลยทั้งสองสั่งเพิ่มอีก 4 ต้น ให้จำเลยทั้งสอง เมื่อโจทก์นำเสาเข็มมาส่งแล้วไม่ยอมยกลงจากรถบรรทุก จำเลยทั้งสองต้องจ้างบุคคลภายนอกดำเนินการเป็นเงิน 27,000 บาท รวมเป็นค่าเสียหายที่จำเลยทั้งสองได้รับ 867,400 บาท เมื่อหักกับเงินค่าตอกเสาเข็มที่จำเลยทั้งสองค้างชำระอยู่ 177,880 บาทแล้ว โจทก์ต้องชำระให้จำเลยทั้งสองเป็นเงิน 689,520 บาท ขอให้ยกฟ้องและให้โจทก์ชำระเงินให้จำเลยทั้งสอง 689,520 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า ฟ้องแย้งเคลือบคลุมและไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม เนื่องจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองรับผิดตามสัญญาซื้อขาย แต่จำเลยทั้งสองฟ้องแย้งให้โจทก์รับผิดตามสัญญาจ้างตอกเสาเข็ม โดยโจทก์มิได้เป็นผู้รับจ้างแต่บริษัทเรดดี้มิกซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทโจทก์เป็นผู้รับจ้าง โจทก์ส่งมอบเสาเข็มตามที่จำเลยทั้งสองสั่งซื้อให้จำเลยทั้งสองและบริษัททักษิณเรดดี้มิกซ์ จำกัด ได้ตอกเสาเข็มเรียบร้อยแล้ว โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ควบคุมดูแลและรับมอบงานไว้นอกจากนี้จำเลยทั้งสองยังได้ทำบันทึกข้อตกลงกับบริษัททักษิณเรดดี้มิกซ์ จำกัด ในนามบริษัทโจทก์ว่า หากตอกเสาเข็มลงไปแล้วเกิดความเสียหายในภายหน้า ผู้ตอกไม่ต้องรับผิดชอบสำหรับเสาเข็มตามคำฟ้องของโจทก์เป็นเสาเข็มที่จำเลยทั้งสองสั่งซื้อใหม่ ไม่เกี่ยวกับการสั่งซื้อครั้งแรกและไม่ได้ว่าจ้างให้บริษัททักษิณเรดดี้มิกซ์ จำกัด ตอก จำเลยทั้งสองไม่เคยแจ้งให้โจทก์ทราบถึงความเสียหายอันเกิดจากการตอกเสาเข็มผิดพลาดและให้ดำเนินการแก้ไข ค่าเสียหายอันเนื่องจากจำเลยทั้งสองให้บริษัท เอส.ที.วี. คอนสตรัคชั่น จำกัด แก้ไขไม่เป็นความจริงเสาเข็มที่จำเลยซื้อจากโจทก์ตามฟ้อง โจทก์ได้ส่งมอบเสาเข็มดังกล่าวให้จำเลยทั้งสองโดยยกเสาเข็มลงจากรถให้เรียบร้อยจำเลยทั้งสองไม่ต้องจ้างให้บุคคลภายนอกยกลงอีก ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสองไม่เคลือบคลุม แต่ไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม จึงไม่วินิจฉัยประเด็นที่เกี่ยวกับฟ้องแย้ง และพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินจำนวน 102,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2532 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์แต่ดอกเบี้ยคำนวณถึงวันฟ้อง (วันที่ 17 เมษายน 2533)ต้องไม่เกิน 2,550 บาท ฟ้องแย้งของจำเลยให้ยกเสีย
จำเลย ทั้ง สอง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยประเด็นเกี่ยวกับฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสอง แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ในชั้นนี้เพียงว่าจำเลยมีสิทธิฟ้องแย้งหรือไม่นั้น เดิมศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รับฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณา แต่เมื่อโจทก์ยื่นคำให้การแก้ฟ้องแย้งแล้ว ศาลชั้นต้นจึงได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทเกี่ยวกับเรื่องฟ้องแย้งไว้ ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นลงวันที่ 17 สิงหาคม 2533 หลังจากที่ดำเนินการสืบพยานทั้งสองฝ่ายจนเสร็จแล้ว จึงวินิจฉัยว่าเป็นฟ้องแย้งที่ไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมโดยไม่วินิจฉัยประเด็นอื่นที่เกี่ยวกับฟ้องแย้ง จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่าฟ้องแย้งเกี่ยวกับฟ้องเดิม พิพากษายกคำพิพากษาของศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยประเด็นที่เกี่ยวกับฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสองแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี โจทก์จึงฎีกาเฉพาะประเด็นนี้ขึ้นมาศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นเรื่องฟ้องแย้งเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้แล้ว การที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยมีสิทธิฟ้องแย้งหรือไม่ ย่อมเป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสาม ซึ่งบัญญัติว่า”จำเลยจะฟ้องแย้งมาในคำให้การก็ได้ แต่ถ้าฟ้องแย้งนั้นเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมแล้วให้ศาลสั่งให้จำเลยฟ้องเป็นคดีต่างหาก” เห็นว่า ตามคำฟ้องโจทก์ขอให้บังคับจำเลยชำระราคาค่าเสาเข็มที่จำเลยที่ 2 ในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้แทนของจำเลยที่ 1 สั่งซื้อจากโจทก์รวม 2 ขนาดจำนวน 14 ต้นจำเลยทั้งสองให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2สั่งซื้อเสาเข็มจากโจทก์อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งมิใช่เสาเข็มที่โจทก์ฟ้อง พร้อมกับจ้างโจทก์ตอกเสาเข็มที่จำเลยทั้งสองสั่งซื้อจากโจทก์นั้นด้วย แต่โจทก์ตอกเสาเข็มที่จำเลยทั้งสองสั่งซื้อดังกล่าวผิดตำแหน่งที่กำหนดไป 10 ต้น เป็นเพราะความผิดของโจทก์โจทก์และจำเลยทั้งสองจึงตกลงกันให้จำเลยทั้งสองสั่งเสาเข็มมาตอกให้ใหม่โดยไม่ต้องชำระราคาและค่าตอกเสาเข็มอีก เสาเข็มจำนวน 10 ต้น ที่โจทก์กล่าวในคำฟ้องเป็นเสาที่ส่งมาทดแทนการตอกผิดพลาดของโจทก์รวมกับที่จำเลยทั้งสองสั่งมาใหม่อีก 4 ต้นจำเลยทั้งสองชำระค่าเสาเข็มและค่าตอกไปเกินกว่าราคาที่จำเลยทั้งสองต้องชำระแก่โจทก์ และเสาเข็มที่โจทก์ตอกนั้นหักและเอียงจากแนวตั้งฉาก 29 ต้น จำเลยทั้งสองแจ้งให้โจทก์แก้ไขแต่โจทก์เพิกเฉย จำเลยทั้งสองจึงต้องจ้างให้ผู้อื่นมาดำเนินการต้องเสียค่าใช้จ่ายรวมทั้งเสาเข็มที่จำเลยทั้งสองสั่งซื้อใหม่4 ต้น โจทก์ก็ไม่ยอมยกลงจากรถยนต์บรรทุกเพื่อส่งมอบตามสัญญาจำเลยทั้งสองต้องจ้างผู้อื่นมาดำเนินการทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เมื่อหักกลบลบกันโจทก์ต้องชำระเงินแก่จำเลยทั้งสองจึงขอให้พิพากษายกฟ้องโจทก์ และให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยทั้งสองพร้อมทั้งดอกเบี้ย จะเห็นได้ว่ามูลคดีที่โจทก์ฟ้องและที่จำเลยทั้งสองฟ้องแย้งเกิดจากสัญญาซื้อขายเสาเข็ม แม้ตามฟ้องแย้งจะได้กล่าวถึงสัญญาจ้างตอกเสาเข็มด้วย แต่เสาเข็มตามจำนวนที่โจทก์ฟ้องก็เป็นส่วนหนึ่งของเสาเข็มที่จำเลยสั่งซื้อจากโจทก์นั่นเอง เมื่อจำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยไม่ต้องชำระค่าเสาเข็มจำนวน 10 ต้น นั้น เนื่องจากเป็นเสาเข็มที่โจทก์จะต้องรับผิดชอบในการตอกเสาเข็มที่ผิดจากตำแหน่งที่กำหนดให้เป็นเสาเข็มที่โจทก์ส่งมาทดแทน ส่วนอีก 4 ต้น ที่จำเลยทั้งสองสั่งซื้อเพิ่มเติมก็เกี่ยวเนื่องกับการตอกเสาเข็มที่ผิดพลาดจึงต้องตอกเสาเข็มเพิ่มขึ้น และเมื่อนำมาส่งแล้วโจทก์ไม่ยอมยกลงมาจากรถยนต์ที่บรรทุกมาอันเป็นการผิดสัญญา ทำให้จำเลยทั้งสองได้รับความเสียหายจึงเป็นฟ้องแย้งที่เกี่ยวข้องกับคำฟ้องเดิมมิใช่เรื่องอื่น
พิพากษายืน

Share