คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยออกเช็คพิพาทลงวันที่ล่วงหน้าแลกเงินสดจาก ย.โดยมิได้มีข้อตกลงเป็นอย่างอื่นย. ย่อมมีสิทธินำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคาร เมื่อเช็คถึงกำหนด การที่ ย. นำเช็คพิพาทไปแลกเงินสดกับผู้เสียหายอีกทอดหนึ่ง ผู้เสียหายย่อมมีสิทธิเช่นเดียวกับ ย. เมื่อผู้เสียหายนำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคาร และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะบัญชีของจำเลยปิดก่อนหน้านั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ส่วนการที่ผู้เสียหายรับแลกเช็คพิพาทเพราะเชื่อถือ ย. มิใช่เชื่อถือจำเลยนั้น ไม่ทำให้ผู้เสียหายเสียสิทธิในฐานะผู้ทรงเช็ค และจะถือว่าผู้เสียหายใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ลงโทษจำคุกจำเลย 6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยมีว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญํติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3 หรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่จำเลยออกเช็คพิพาทให้แก่ผู้ถือตามเช็คเอกสารหมาย จ.1 นั้นเป็นการให้สิทธิแก่ผู้ทรงในอันที่จะนำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคารได้ โดยจำเลยมีเจตนาผูกพันเพื่อจะให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น คดีนี้ได้ความว่า จำเลยออกเช็คพิพาทลงวันที่ล่วงหน้าแลกเงินสดกับนางยุพิน พรหมพฤกษ์โดยมิได้มีข้อตกลงเป็นอย่างอื่น นางยุพินย่อมมีสิทธินำเช็คพิพาทไปขอรับเงินจากธนาคารเมื่อเช็คถึงกำหนด การที่นางยุพินนำเช็คพิพาทไปแลกเงินสดกับผู้เสียหายอีกทอดหนึ่ง ผู้เสียหายย่อมมีสิทธิเช่นเดียวกันกับนางยุพิน เมื่อผู้เสียหายนำเช็คพิพาทซึ่งถึงกำหนดแล้วไปขอรับเงินจากธนาคาร ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค เพราะบัญชีของจำเลยปิดก่อนหน้านั้น ตามเอกสารหมาย จ.2 ซึ่งผู้เสียหายได้ติดต่อทวงถามจากจำเลยแล้ว แต่จำเลยไม่ยอมชำระเงินตามเช็คพิพาทให้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติดังกล่าวที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่าผู้เสียหายรับเช็คพิพาทไว้จากนางยุพินเพราะเชื่อถือนางยุพิน ไม่ใช่เชื่อถือจำเลยผู้ออกเช็คนั้น ไม่ใช่ข้อเท็จจริงซึ่งจะทำให้ผู้เสียหายเสียสิทธิในฐานะผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะผู้เสียหายมิได้มีข้อตกลงกับจำเลยในการออกเช็คพิพาท และจะถือว่าผู้เสียหายใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่ได้ทั้งการที่จำเลยนำเช็คพิพาทไปแลกเงินสดจากนางยุพิน หรือนางยุพินนำเช็คพิพาทไปแลกเงินสดกับผู้เสียหายนั้นก็ไม่ใช่เป็นกรณีที่นางยุพิน หรือผู้เสียหายรับเช็คพิพาทไว้เป็นประกันหนี้ ข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงไม่ใช่เหตุที่จะทำให้การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย…”
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share