คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2099/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยจะได้รับการปรับโทษใหม่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา90ต้องปรากฏว่าการกระทำความผิดของจำเลยในคดีนี้กับคดีก่อนมีความเกี่ยวพันกันจนอาจรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้เมื่อเงินที่จำเลยเบียดบังในคดีทั้งสองเป็นเงินคนละประเภทสถานที่เบิกเงินการเบิกจ่ายเงินและการส่งเงินคืนก็แตกต่างกันพยานคนละชุดกันการสอบสวนคดีนี้ได้กระทำขึ้นภายหลังที่จำเลยถูกฟ้องและศาลพิพากษาคดีก่อนแล้วการกระทำความผิดของจำเลยในคดีทั้งสองจึงไม่เกี่ยวพันกันและไม่อาจรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้จึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา91

ย่อยาว

คดี นี้ สืบเนื่อง มาจาก ศาลชั้นต้น มี คำพิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157 การกระทำ ของ จำเลย เป็นความผิด หลายกรรม ต่างกัน ใน แต่ละ กรรม เป็น ความผิด กรรมเดียว แต่ผิด กฎหมาย หลายบท ให้ เรียง กระทง ลงโทษ ตาม มาตรา 147 ซึ่ง เป็น บทหนักทุกกรรม ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และ 91 จำคุก กระทง ละ5 ปี รวม 11 กระทง เป็น จำคุก 55 ปี จำเลย ให้การรับสารภาพลดโทษ กึ่งหนึ่ง ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คง จำคุก 27 ปี 6 เดือนนับ โทษ ต่อ จาก คดีอาญา หมายเลขแดง ที่ 9749/2530 ของ ศาลชั้นต้น
จำเลย ยื่น คำร้อง ว่า จำเลย เคย ถูก ศาล พิพากษา ลงโทษ ใน ความผิดต่อ ตำแหน่ง หน้าที่ ราชการ จำคุก 40 ปี ตาม คดีอาญา หมายเลขแดงที่ 1789/2530 (ที่ ถูก คดีอาญา หมายเลขแดง ที่ 9749/2530) ของศาลชั้นต้น และ เป็น ความผิด หลายกรรม ต่างกัน กับ คดี นี้ ขอให้ ปรับ โทษปรับ ใบ แดง คดี ทั้ง สอง ใหม่ และ เมื่อ รวม โทษ ทั้ง 2 คดี แล้ว ต้อง ไม่เกินกำหนด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ว่า คดี ทั้ง สอง สำนวน ถึงที่สุด แล้ว จึง ปรับ โทษให้ ตาม คำร้อง ไม่ได้ ยกคำร้อง
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “มี ปัญหา วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของ จำเลย ว่าจำเลย มีสิทธิ ได้รับ การ ปรับ โทษ ใหม่ หรือไม่ เห็นว่า การ ที่ จำเลย จะ ได้รับ การ ปรับ โทษ ใหม่ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 นั้น จะ ต้อง ปรากฏว่าการกระทำ ความผิด ของ จำเลย ใน คดี นี้ กับ คดีอาญา หมายเลขแดง ที่ 9749/2530ของ ศาลชั้นต้น มี ความ เกี่ยวพัน กัน จน อาจ รวม พิจารณา พิพากษา เข้า ด้วยกันได้ แต่ ตาม สำนวน ปรากฏว่า คดี นี้ กับ คดีอาญา หมายเลขแดง ที่ 9749/2530ของ ศาลชั้นต้น ที่ จำเลย ขอให้ ปรับ โทษ นั้น เงิน ที่ จำเลย เบียดบัง เป็นเงิน คน ละ ประเภท สถานที่ เบิกเงิน การ เบิกจ่าย เงิน และ การ ส่ง เงินคืน ก็ แตกต่าง กัน พยาน ใน คดี ทั้ง สอง ดังกล่าว คน ละ ชุด กัน การ สอบสวน คดีนี้ ก็ ได้ กระทำ ขึ้น ภายหลัง ที่ จำเลย ถูก ฟ้อง และ ศาล พิพากษาคดี อาญาหมายเลขแดง ที่ 9749/2530 ดังกล่าว แล้ว การกระทำ ความผิด ของจำเลย ใน คดี ทั้ง สอง จึง ไม่เกี่ยว พัน กัน และ ไม่อาจ รวม พิจารณา พิพากษาเข้า ด้วยกัน ได้ กรณี จึง ไม่ ตกอยู่ใน บังคับ มาตรา 91 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ชอบแล้ว ฎีกา จำเลย ฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน

Share