แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานตำรวจ แต่แต่งกายดังที่เจ้าพนักงานตำรวจนอกเครื่องแบบแต่งกันตามปกติ โดยนุ่งกางเกงสีกากี สวมเสื้อคอกลมขาว คาดเข็มขัดหนังยืนให้สัญญาณรถยนต์บรรทุกที่ผ่านไปมาให้หยุดรถเพื่อตรวจตรงจุดที่รถยนต์ตำรวจทางหลวงจอดอยู่เป็นประจำ อันทำให้บุคคลทั่วไปอาจเข้าใจได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ในการเรียกตรวจรถแต่ละครั้งจำเลยแสดงให้เป็นที่เข้าใจได้ว่าได้รับเงินจากพวกคนขับรถยนต์บรรทุกพฤติการณ์ของจำเลยฟังได้ว่า จำเลยแสดงตนและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานตำรวจทางหลวงจำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ออกตรวจจับผู้คนบนถนน ทั้งนี้โดยจำเลยมิได้เป็นเจ้าพนักงานตำรวจที่มีอำนาจกระทำการนั้น ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 145
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยแต่งกายดังที่เจ้าพนักงานตำรวจนอกเครื่องแบบแต่งกันตามปกติ โดยนุ่งกางเกงสีกากี สวมเสื้อคอกลมขาว คาดเข็มขัดหนังยืนให้สัญญาณรถยนต์บรรทุกที่ผ่านไปมาให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจตรงจุดที่รถยนต์ตำรวจทางหลวงจอดอยู่เป็นประจำ อันทำให้บุคคลทั่วไปอาจเข้าใจได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ จำเลยเคยทำเช่นนี้หลายครั้ง แต่ละครั้งจะมีตำรวจแต่งเครื่องแบบอยู่ในรถยนต์ตำรวจทางหลวงซึ่งจอดอยู่ใกล้จุดที่จำเลยเรียกรถยนต์บรรทุกสองคนบ้างสามคนบ้าง และในการเรียกตรวจรถแต่ละครั้งจำเลยได้แสดงให้เป็นที่เข้าใจว่าได้รับเงินจากพวกคนขับรถยนต์บรรทุกที่ถูกเรียกให้หยุด พฤติการณ์ของจำเลยฟังได้ว่า จำเลยได้แสดงตนและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานตำรวจทางหลวงในการเรียกตรวจรถที่ผ่านไปมา โดยจำเลยไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานจริง จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145
พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 145