คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2098/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่ขอให้นับโทษจำเลยติดต่อกับโทษในคดีที่ศาลได้พิพากษาไปแล้ว หากคดีหลังจำเลยให้การปฏิเสธและโจทก์มิได้นำสืบว่า จำเลยในคดีหลังเป็นคนเดียวกับจำเลยในคดีก่อน แม้สำนวนคดีก่อนโจทก์ก็มิได้อ้างไว้ในระบุพยานดังนี้ถือว่าไม่มีหลักฐานจะฟังว่าจำเลยได้ต้องโทษในคดีก่อน จะนับโทษจำเลยต่อกับโทษในคดีก่อนไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์หาว่า จำเลยสมคบกันกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์ ขอให้ลงโทษและใช้ทรัพย์ กับขอให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อโทษตามสำนวนคดีแดง 381/2491 จำเลยทั้ง 2 ให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยกระทำผิดจริงดังฟ้อง พิพากษาจำคุกจำเลยคนละ 12 ปี และให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อจากคดีแดงที่ 381/2491 นั้น คดีนั้นยังอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ จึงไม่นับต่อให้

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า แม้คดีเดิมยังไม่ถึงที่สุด ก็นับโทษจำเลยต่อได้ แต่เรื่องนี้โจทก์ไม่ได้สืบว่าจำเลยที่ 1 เป็นคน ๆ เดียวกับจำเลยในคดีแดงที่ 381/2491 หรือมิใช่ จึงนับโทษต่อให้ไม่ได้คงพิพากษายืน

โจทก์และจำเลยทั้ง 2 ฎีกา

ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยทั้ง 2 กระทำผิดดังฟ้องตามศาลล่างส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำเลยที่ 1 ต่อกับคดีแดงที่ 381/2491 นั้นคดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ และโจทก์มิได้นำสืบเลยว่า จำเลยที่ 1 เป็นคน ๆ เดียวกับจำเลยในคดีแดงที่ 381/2491 แม้แต่สำนวนคดีดังกล่าวโจทก์ก็หาได้ระบุอ้างไว้ในระบุพยานไม่ คดีไม่มีหลักฐานจะฟังว่าจำเลยที่ 1 ได้ต้องคำพิพากษาให้ลงโทษในคดีแดงที่ 381/2491จึงไม่มีทางนับโทษจำเลยที่ 1 ติดต่อกับโทษในคดีดังกล่าว

พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์จำเลย

Share