แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ขณะที่จำเลยเข้าไปอยู่อาศัยในตึกแถวของผู้เสียหายนั้นจำเลยได้เข้าไปอยู่ก่อนที่สัญญาเช่าจะครบกำหนดโดยผู้เช่าเป็นผู้อนุญาต ซึ่งขณะนั้นผู้เช่ายังมีสิทธิครอบครองตึกแถวอยู่ จำเลยจึงเข้าไปอาศัยอยู่ในฐานบริวารของผู้เช่า การเข้าไปอาศัยอยู่ในตึกแถวดังกล่าวจึงเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควร ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 และเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ดังกล่าวแล้ว การที่จำเลยยังคงอยู่ต่อเนื่องตลอดมา แม้สัญญาเช่าดังกล่าวจะครบกำหนดแล้ว และผู้เสียหายได้แจ้งให้จำเลยออกไปแล้ว จำเลยก็ยังไม่ยอมออกไปนั้น ก็เป็นเรื่องละเมิดในทางแพ่งเท่านั้นไม่เป็นความผิดทางอาญาเช่นกันการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364, 365
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 364 ประกอบมาตรา 365(3) (ที่ถูกมาตรา 365(3) ประกอบมาตรา 364)จำคุก 6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ขณะที่จำเลยเข้าไปอยู่อาศัยในตึกแถวของผู้เสียหายนั้น จำเลยได้เข้าไปอยู่ก่อนที่สัญญาเช่าจะครบกำหนดโดยนายพิชิตผู้เช่าเป็นผู้อนุญาต ซึ่งขณะนั้นนายพิชิตยังมีสิทธิครอบครองตึกแถวในฐานผู้เช่าอยู่ จำเลยจึงเข้าไปอาศัยอยู่ในฐานบริวารของนายพิชิต การเข้าไปอาศัยอยู่ในตึกแถวดังกล่าวจึงเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควร ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 และเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ดังกล่าวแล้วการที่จำเลยยังคงอยู่ต่อเนื่องตลอดมา แม้สัญญาเช่าดังกล่าวจะครบกำหนดแล้ว และผู้เสียหายได้แจ้งให้จำเลยออกไปแล้ว จำเลยก็ยังไม่ยอมออกไปนั้นก็เป็นเรื่องละเมิดในทางแพ่งเท่านั้น ไม่เป็นความผิดทางอาญาเช่นกัน การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานบุกรุกตามฟ้อง
พิพากษายืน