คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2096/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นหญิงมีสามีฟ้องคดีโดยไม่มีหนังสือให้ความยินยอมของสามี จำเลยโต้แย้งอำนาจฟ้อง ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาโจทก์ได้ยื่นหนังสือยินยอมของสามีโจทก์ให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลแล้วและศาลมีคำสั่งอนุญาต ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์ได้แก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อ พ.ศ. 2514 นางสาวทัศนีย์ อินทร์สุข บุตรจำเลยได้เช่าที่ดินที่อำเภอตะพานหินจังหวัดพิจิตร ซึ่งโจทก์ถือสิทธิร่วมกับสามีสร้างห้องแถวเลขที่ 40 มีกำหนด 3 ปี ต่อมานางสาวทัศนีย์ถึงแก่กรรมตึกแถวตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย ๆ ขอเช่าต่อโดยไม่มีกำหนดเวลา ต่อมา พ.ศ. 2521 โจทก์ได้บอกเลิกการเช่าแต่จำเลยไม่ยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป ขอให้ศาลบังคับและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์เดือนละ 300 บาท

จำเลยให้การว่า โจทก์ฟ้องคดีโดยไม่ได้รับความยินยอมจากสามี สัญญาเช่ายังไม่เลิกเพราะโจทก์ยังเก็บค่าเช่าอยู่ โจทก์เสียหายไม่เกินเดือนละ 120 บาท ขอให้ยกฟ้อง

ในชั้นนี้สองสถานโจทก์ติดใจเรียกค่าเสียหายเดือนละ 100 บาท

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนห้องแถวดังกล่าวออกไปจากที่พิพาทและให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 100 บาท

จำเลยอุทธรณ์โต้แย้งเรื่องอำนาจฟ้อง

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ จำเลยเป็นคู่สัญญาต้องผูกพันตามสัญญาเช่าซึ่งจำเลยมิได้โต้แย้ง จำเลยจะโต้แย้งว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะสามีไม่ได้ยินยอมไม่ได้พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏตามสำนวนว่าคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ได้ยื่นหนังสือยินยอมของพันตำรวจตรีประศาสตร์สามีให้ฟ้องคดีต่อศาลแล้วและศาลอนุญาตถือได้ว่าโจทก์ได้แก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 56 แล้ว

พิพากษายืน

Share