คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2090/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คำขอให้มีการพิจารณาใหม่ ต้องมีเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 คำร้องของจำเลยระบุเพียงว่า ขณะจำเลยถูกโจทก์ฟ้อง จำเลยทำงานอยู่ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย จำเลยจึงขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา หากจำเลยไม่ขาดนัดพิจารณาจำเลยอาจสืบพยานถึงข้อเท็จจริงและศาลคงพิพากษายกฟ้องโจทก์ ดังนี้คำร้องขอของจำเลยไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง ส่วนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยอีกฉบับที่อ้างเหตุว่าจำเลยไม่ทราบว่าถูกโจทก์ฟ้อง ซึ่งเป็นการแสดงว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดเท่านั้นจำเลยมิได้อ้างเหตุผลที่จะแสดงให้เห็นเลยว่า หากมีการพิจารณาใหม่แล้วจำเลยอาจชนะคดีได้อย่างไร จึงยังคงเป็นคำร้องที่มิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้ง ซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลอยู่นั่นเอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เปิดทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอมแก่ที่ดินโจทก์จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ฝ่ายเดียว และพิพากษาว่า ทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินโจทก์จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่า จำเลยไม่ทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่อีกครั้ง อ้างว่าขณะโจทก์ฟ้องจำเลยไปทำงานต่างประเทศศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง จำเลยอุทธรณ์คำสั่งทั้งสอง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีข้อวินิจฉัยว่า คำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยเข้าหลักเกณฑ์ตามบทบัญญัติของกฎหมายครบถ้วนหรือไม่เห็นว่าเมื่อคู่ความที่ขาดนัดพิจารณาถูกศาลพิพากษาให้แพ้คดี คู่ความฝ่ายนั้นอาจมีคำขอให้มีการพิจารณาใหม่ได้ ซึ่งคำร้องนั้นต้องมีเหตุตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 พิเคราะห์คำร้องของจำเลยที่ขอให้พิจารณาใหม่ฉบับลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2529 ระบุเพียงว่าขณะจำเลยถูกโจทก์ฟ้อง จำเลยไม่ทราบเพราะขณะนั้นจำเลยทำงานอยู่ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย จำเลยจึงขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาหากจำเลยไม่ขาดนัดพิจารณา จำเลยอาจสืบพยานถึงข้อเท็จจริง และศาลคงพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้เท่านั้น นับว่าคำร้องของจำเลยเลื่อนลอย ขาดเหตุผลสนับสนุน ไม่พอที่จะแสดงให้เห็นว่า ถ้ามีการพิจารณาคดีใหม่แล้วจำเลยมีพยานหลักฐานใดที่จะชนะคดีโจทก์ได้อย่างไรบ้าง คำร้องของจำเลยจึงมิได้กล่าวโดยละเอียดถึงข้อคัดค้านคำชี้ขาดของศาลชั้นต้น และไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง ส่วนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยฉบับลงวันที่ 16 มกราคม 2530 ที่จำเลยยื่นเข้ามาใหม่อีกครั้งนั้น ก็ยังคงอ้างเหตุว่าจำเลยไม่ทราบว่าถูกโจทก์ฟ้อง ซึ่งเป็นการแสดงว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดเท่านั้น จำเลยมิได้อ้างเหตุผลที่จะแสดงให้เห็นเลยว่าหากมีการพิจารณาใหม่แล้วจำเลยอาจชนะคดีได้อย่างไร จึงยังคงเป็นคำร้องที่มิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นอยู่นั่นเอง ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและคำพิพากษายกคำร้องของจำเลยชอบแล้วฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share