แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างระบุว่าผู้ร้องอนุญาตให้สมาชิกสหภาพแรงงานไปประชุมหรือสัมมนาได้ เพียงแต่ต้องขอลาต่อผู้ร้องล่วงหน้า ดังนั้นเมื่อผู้คัดค้านซึ่งเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานจะเริ่มลางานในวันที่ 29 สิงหาคม 2526 เพื่อไปร่วมสัมมนา คำว่าล่วงหน้าย่อมแปลได้ว่าล่วงหน้าก่อนวันที่ 29 สิงหาคม 2526 มิใช่แจ้งในวันดังกล่าวอันเป็นวันเริ่มลางาน ที่ผู้ร้องไม่อนุญาตให้ลาและถือว่าผู้คัดค้านละทิ้งหน้าที่เป็นการชอบแล้ว
การที่ผู้คัดค้านละทิ้งหน้าที่ไปร่วมสัมมนานั้น เมื่อมีหนังสือกรมแรงงานชี้แจงผู้ร้องว่าการสัมมนาอาจเป็นประโยชน์ทั้งฝ่ายลูกจ้างและนายจ้างประกอบทั้งสหภาพแรงงานได้คัดเลือกผู้คัดค้านให้เป็นผู้เข้าสัมมนา นับเป็นเหตุสมควรที่ผู้คัดค้านจะหาทางเข้าร่วมสัมมนา ถือไม่ได้ว่าการละทิ้งหน้าที่ของผู้คัดค้านทำไปโดยไม่มีเหตุอันสมควร เพียงแต่ผู้คัดค้านมิได้ปฏิบัติครบถ้วนตามระเบียบการลาเท่านั้น จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะอนุญาตให้เลิกจ้างผู้คัดค้าน
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า นายประเสริฐและนายโยธิน ผู้คัดค้านเป็นลูกจ้างและกรรมการลูกจ้างในบริษัทผู้ร้อง ผู้คัดค้านละทิ้งหน้าที่เป็นเวลาห้าวันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควร ไม่ได้ยื่นใบลาต่อผู้บังคับบัญชาล่วงหน้าตามระเบียบข้อบังคับของบริษัทตามกฎหมาย และไม่ได้รับอนุญาตให้ลา ผู้ร้องขออนุญาตลงโทษผู้คัดค้านด้วยการตักเตือนเป็นหนังสือแก่นายประเสริฐและเลิกจ้างนายโยธิน
ผู้คัดค้านทั้งสองยื่นคำคัดค้านว่าสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมผ้าห่มไทยและสิ่งทอเสนอชื่อผู้คัดค้านทั้งสองเพื่อจัดส่งเข้าสัมมนาที่สภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทย สหภาพแรงงานดังกล่าวมีหนังสือลงวันที่ ๒๖สิงหาคม ๒๕๒๖ แจ้งให้ผู้ร้องทราบเพื่อลางานไปสัมมนา และผู้คัดค้านได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบอีกทางหนึ่งในวันที่ ๒๖ และ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๒๖ ตามลำดับถือว่าผู้คัดค้านและสหภาพแรงงานได้แจ้งให้ผู้ร้องทราบล่วงหน้าเพื่อขอลาไปสัมมนา อันเป็นการปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงแล้ว ไม่อาจถือได้ว่าผู้คัดค้านทั้งสองละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา ๕ วันติดต่อกัน นอกจากนั้นกรมแรงงานยังได้มีหนังสือแจ้งการลาไปยังผู้ร้องในวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๒๖ ซึ่งเป็นประเพณีปฏิบัติต่อเนื่องกันว่า แม้หนังสือกรมแรงงานจะไปถึงผู้ร้องช้าไปบ้างผู้ร้องก็เคยให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ไปสัมมนาทุกครั้ง ไม่เคยถือเป็นการละทิ้งหน้าที่ เมื่อมีข้อตกลงระหว่างผู้ร้องกับสหภาพแรงงานเกี่ยวกับเรื่องการลาไปเพื่อร่วมสัมมนาซึ่งยังมีผลใช้บังคับอยู่ ผู้ร้องจะใช้ระเบียบข้อบังคับของผู้ร้องมาใช้บังคับผู้คัดค้านไม่ได้ การที่ผู้ร้องไม่อนุญาตการลาเป็นการกลั่นแกล้ง
ศาลแรงงานกลางอนุญาตให้ผู้ร้องลงโทษเป็นหนังสือแก่นายประเสริฐและอนุญาตให้เลิกจ้างนายโยธิน ผู้คัดค้าน
นายโยธินผู้คัดค้านอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างผู้ร้องอนุญาตให้สมาชิกสหภาพแรงงานไปประชุมหรือสัมมนาได้โดยต้องแจ้งขอลาเป็นการล่วงหน้าต่อบริษัทผู้ร้อง ดังนั้นเมื่อผู้คัดค้านซึ่งเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานจะเริ่มลางานในวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๒๖ เพื่อไปร่วมสัมมนา คำว่าล่วงหน้าย่อมแปลได้ว่าล่วงหน้าก่อนวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๒๖ มิใช่แจ้งในวันที่ ๒๙ อันเป็นวันเริ่มลางาน ที่ผู้ร้องไม่อนุญาตให้ลาและถือว่าผู้คัดค้านละทิ้งหน้าที่เป็นการชอบแล้ว
การที่ผู้คัดค้านละทิ้งหน้าที่ไปร่วมสัมมนานั้น เมื่อมีหนังสือของกรมแรงงานถึงผู้ร้องแจ้งว่า การสัมมนาอาจเป็นประโยชน์ทั้งฝ่ายลูกจ้างและนายจ้าง ประกอบทั้งสหภาพแรงงานได้คัดเลือกผู้คัดค้านให้เป็นผู้เข้าสัมมนา นับเป็นเหตุสมควรที่ผู้คัดค้านจะหาทางเข้าร่วมสัมมนา ถือไม่ได้ว่าการละทิ้งหน้าที่ของผู้คัดค้านทำไปโดยไม่มีเหตุอันสมควร เพียงแต่ผู้คัดค้านมิได้ปฏิบัติครบถ้วนตามระเบียบการลาเท่านั้น จึงไม่มีเหตุอันสมควรให้ผู้ร้องเลิกจ้างนายโยธินผู้คัดค้าน
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำร้องของผู้ร้องเฉพาะที่เกี่ยวกับนายโยธิน ผู้คัดค้าน