คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1626/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ผู้อ้างพยานเอกสารมิได้เสียค่าอ้างเอกสารภายในกำหนด 3 วันตามคำสั่งศาลชั้นต้น แต่ได้เสียก่อนศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษา ดังนี้ศาลจะตัดไม่รับฟังพยานเอกสารของโจทก์ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินไร่ ๑ แปลง มีอาณาเขตติดต่อปรากฏตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้อง โจทก์ได้ทำการไถพื้นที่เพื่อเตรียมการปลูกพืชไร่ตามฤดูกาล จำเลยได้บุกรุกเอาข้าวโพดเข้าไปปลูกลงในที่ดินไร่ของโจทก์ เนื้อที่ ๓๕ ไร่ ปรากฏตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้อง แล้วปักหลักล้อมรั้วลวดหนามกั้นเขตไว้ ขอให้ห้ามจำเลยและบริวารอย่าเกี่ยวข้องกับที่ดินตามฟ้อง ทั้งรื้อถอนรั้วและพืชไร่ที่จำเลยปลูกออกไป กับให้ใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่า ที่พิพาทเป็นที่จัดสรรของทางราชการ จำเลยได้เข้าถากถางและเข้าครอบครองทำกินโดยเปิดเผยตลอดมา โจทก์ไม่เคยเข้าเกี่ยวข้องกับที่พิพาท จำเลยไม่ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหาย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์อ้างพยานเอกสารรวม ๕ ฉบับ แต่ไม่ได้เสียค่าอ้างเอกสารภายในกำหนด ๓ วัน ตามคำสั่งศาล จึงไม่รับฟังพยานเอกสารของโจทก์ แล้วฟังว่าที่พิพาทไม่ใช่ที่ดินที่โจทก์ซื้อจากนายดีและนายเทพแต่เป็นของจำเลย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ได้เสียค่าอ้างเอกสารแล้วก่อนอ่านคำพิพากษา โจทก์ไม่ได้ขัดขืนไม่ยอมเสีย ที่ศาลชั้นต้นตัดไม่ฟังพยานเอกสารที่โจทก์อ้างจึงไม่ชอบ และฟังว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ พิพากษากลับให้ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่พิพาทให้จำเลยรื้อถอนรั้วและพืชไร่ที่ปลูกไว้ออกไป ให้ใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ปีละ ๔๐๐ บาท นับแต่วันละเมิดไปจนหยุดการละเมิด
จำเลยฎีกา
ข้อที่จำเลยฎีกาว่า ศาลชั้นต้นวินิจฉัยไม่รับฟังพยานเอกสารที่โจทก์อ้างนั้นชอบแล้ว เพราะโจทก์ไม่ได้เสียค่าอ้างเอกสารภายในกำหนด ๓ วันตามคำสั่งศาล เท่ากับไม่ติดใจอ้างเอกสาร และไม่เคารพต่อคำสั่งศาลศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ค่าอ้างเอกสารเป็นค่าธรรมเนียมตามตาราง ๒ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งตามตารางนั้นกำหนดให้ชำระเมื่อส่งเอกสาร หาใช่ให้ชำระเมื่อศาลมีคำสั่ง ซึ่งสั่งไปเพื่อเตือนหรือกันความหลงลืมของคู่ความเท่านั้น ทางปฏิบัติเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ศาลจะเรียกเก็บเมื่อส่งเอกสารต่อศาล หรือจะรวมเก็บคราวเดียวก่อนการชี้ขาดตัดสินคดีก็ได้ ทั้งโจทก์ก็ได้เสียค่าอ้างเอกสารทั้ง ๕ ฉบับไว้ครบถ้วนก่อนศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาแล้ว เมื่อได้ชำระแล้วย่อมรับฟังได้ตามเอกสารนั้น ไม่มีเหตุอันควรที่ศาลชั้นต้นจะพึงตัดไม่รับฟังเอกสารของโจทก์และฟังข้อเท็จจริงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์
พิพากษายืน

Share