แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดหลายกรรม และเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายฉบับ ข้อเท็จจริงแต่ละกรรมพัวพันกัน แม้เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วโจทก์ก็ยังอุทธรณ์ว่าศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยไม่ครบถ้วนทุกกระทงความผิด ลักษณะของความผิดและพฤติการณ์แห่งคดีเป็นดังนี้ การที่จำเลยขอแก้คำให้การสารภาพเป็นปฏิเสธ โดยอ้างว่าให้การรับสารภาพไปโดยเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง ถือได้ว่ามีเหตุอันควร เมื่อจำเลยขอแก้ก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา จึงสมควรอนุญาตให้จำเลยแก้คำให้การได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๖๔, ๒๖๕, ๒๖๘, ๘๓, ๙๑ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๒๔, ๗๒,๗๓ คำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ ข้อ ๖, ๘ พระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช ๒๔๖๙ มาตรา ๒๗, ๙๙ พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ. ๒๔๘๙ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๗, ๘, ๙ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๒ ริบของกลางจ่ายเงินสินบนแก่ผู้แจ้งความ และจ่ายรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้จับตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพเมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๒๔ ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ ๒๒ เดือนเดียวกัน
วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๒๔ จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอแก้คำให้การ โดยขอถอนคำให้การที่รับสารภาพ อ้างว่าให้การไปโดยเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงและขอให้การใหม่ปฏิเสธว่ามิได้กระทำผิดดังโจทก์ฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจโดยทนายจำเลยก็อยู่ด้วย มีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยถอนคำให้การเดิมที่รับสารภาพและไม่รับคำให้การใหม่ของจำเลย พิพากษาลงโทษจำคุกและปรับจำเลย
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยทุกกรรมตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์ขอให้เพิกถอนคำให้การรับสารภาพ และรับคำให้การใหม่ที่ปฏิเสธ ให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี หรือขอให้รอการลงโทษจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรับคำให้การปฏิเสธของจำเลยทั้งสอง ดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ฎีกาขอให้ยกอุทธรณ์ของจำเลย แล้วให้ศาลอุทธรณ์ทำการพิจารณาอุทธรณ์ของโจทก์ต่อไป
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๓ วรรคสอง นั้น เมื่อโจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดหลายกรรม และเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายฉบับ ข้อเท็จจริงแต่ละกรรมพัวพันกัน ดังจะเห็นได้ว่าแม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาลงโทษจำเลยแล้วโจทก์ก็ยังอุทธรณ์ว่าศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยไม่ครบถ้วนทุกกรรมทุกกระทงความผิดลักษณะความผิดและพฤติการณ์ดังกล่าว เมื่อพิจารณาประกอบกับข้อที่จำเลยขอแก้คำให้การ โดยอ้างว่าให้การรับสารภาพไปโดยเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง ถือได้ว่ามีเหตุอันควร เมื่อจำเลยขอแก้ก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา สมควรอนุญาตให้จำเลยแก้คำให้การได้
พิพากษายืน