คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2080/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์ได้มีหนังสือแจ้งให้จำเลยชำระหนี้และบอกกล่าวบังคับจำนองแก่จำเลยแล้ว แม้ต่อมาโจทก์ขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องในส่วนหนี้ที่จำเลยค้างชำระ ทำให้ยอดหนี้ใหม่มีจำนวนสูงกว่าที่ปรากฏในหนังสือที่โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยชำระหนี้และบอกกล่าวบังคับจำนองก็ตาม แต่จำนวนหนี้ที่ระบุในหนังสือดังกล่าวนั้นมิใช่ข้อสาระสำคัญ โจทก์จึงไม่จำต้องแจ้งให้จำเลยชำระหนี้และบอกกล่าวบังคับจำนองในหนี้ส่วนที่เพิ่มขึ้นอีกแต่อย่างใด เพราะหนี้จำนวนดังกล่าวก็เป็นหนี้ที่จำเลยค้างชำระแก่โจทก์นั่นเอง ถือได้ว่าโจทก์ได้มีหนังสือแจ้งให้จำเลยชำระหนี้และบอกกล่าวบังคับจำนองก่อนฟ้องคดีโดยชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้เงินกู้พร้อมดอกเบี้ยให้โจทก์ หากจำเลยทั้งสองไม่ชำระหนี้ ให้นำที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 2 ออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์จนครบถ้วน หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้โจทก์ยึดหรืออายัดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์จนครบ
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เนื่องจากลายมือชื่อของผู้แต่งทนายความเป็นลายมือชื่อปลอม ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม จำเลยทั้งสองไม่ได้เป็นหนี้ตามยอดหนี้ในฟ้อง โจทก์คิดดอกเบี้ยไม่ถูกต้องและไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยที่เกิน 5 ปี และโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา ก่อนฟ้องคดีโจทก์ไม่ได้บอกกล่าวให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้และบอกกล่าวบังคับจำนอง
จำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินตามฟ้องให้โจทก์ กับให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เดิมฟ้องโจทก์ระบุยอดหนี้ที่จำเลยทั้งสองค้างชำระ ณ วันที่ 28 มีนาคม 2539 เป็นจำนวนเงิน 832,059.04 บาท ตรงตามฎีกาของจำเลยทั้งสอง แต่ต่อมาโจทก์ได้ขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องในวันที่ 6 มิถุนายน 2540 เนื่องจากคำฟ้องโจทก์มีข้อบกพร่องโดยได้ขอแก้ไขยอดหนี้ในวันที่ 28 มีนาคม 2539 จากเดิม 832,059.04 บาท เป็น 1,646,325.53 บาท เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นหนี้โจทก์อยู่ตามจำนวนดังกล่าวจริง ที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า จำนวนหนี้ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้อง โจทก์ยังมิได้มีหนังสือแจ้งให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้และบอกกล่าวบังคับจำนอง จึงไม่อาจนำคดีมาฟ้องร้องบังคับจำเลยทั้งสองได้นั้น เห็นว่า ก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์ได้มีหนังสือแจ้งให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้และบอกกล่าวบังคับจำนองแล้ว แม้ต่อมาโจทก์จะได้ขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องในส่วนหนี้ที่จำเลยทั้งสองค้างชำระทำให้ยอดหนี้ใหม่มีจำนวนสูงกว่าที่ปรากฏในหนังสือแจ้งให้ชำระหนี้และบอกกล่าวบังคับจำนองก็ตาม จำนวนหนี้ที่ระบุในหนังสือดังกล่าวนั้นมิใช่ข้อสาระสำคัญ โจทก์หาจำต้องแจ้งให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้และบอกกล่าวบังคับจำนองในหนี้ส่วนที่เพิ่มขึ้นอีกแต่อย่างใดไม่ เพราะหนี้จำนวนดังกล่าวก็เป็นหนี้ที่จำเลยทั้งสองค้างชำระแก่โจทก์นั่นเอง ถือได้ว่าโจทก์ได้มีหนังสือแจ้งให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้และบอกกล่าวบังคับจำนองก่อนฟ้องคดีโดยชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งสองทุกข้อฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share