แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อที่จำเลยจะได้หลบหนีและปกปิดความผิดที่จำเลยใช้อาวุธปืนฆ่าบุคคลอื่นอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (7) ศาลจะลงโทษจำเลยฐานฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่อันเป็นความผิดตามมาตรา 289 (2) มิได้ เพราะเป็นการนอกเหนือไปจากที่โจทก์ฟ้องและไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดหลายกรรมโดยจำเลยใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.อ.สุชาติโดยเจตนาฆ่าและไตร่ตรองไว้ก่อนจนถึงแก่ความตาย และต่อมาจำเลยใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ท.สมชาติและร.ต.ท.พงษ์ศักดิ์โดยเจตนาฆ่าและเพื่อปกปิดการกระทำผิดดังกล่าว เพื่อหลบหนีให้พ้นอาญาในความผิดที่จำเลยได้กระทำไว้จนถึงแก่ความตาย และจำเลยได้ใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ท.วรพงษ์โดยเจตนาฆ่าเพื่อหลบหนีและปกปิดการกระทำผิด แต่ไม่บรรลุผลและได้ใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต.เกรียงไกรโดยเจตนาฆ่าและโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแต่ไม่บรรลุผล ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๘๙, ๘๐, ๙๑
จำเลยให้การว่าจำเลยยิงพ.ต.อ.สุชาติโดยบันดาลโทสะ นอกนั้นจำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ วางโทษประหารชีวิต และผิดตามมาตรา ๒๘๘ อีกสองกระทง จำคุกกระทงละตลอดชีวิต เรียงกระทงลงโทษตามมาตรา ๙๑ คงให้ประหารชีวิต ข้อหาอื่นให้ยก คืนของกลางแก่ทางราชการ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ฟังได้ว่าจำเลยเจตนาฆ่าพ.ต.อ.สุชาติโดยไตร่ตรองไว้ก่อนกระทงหนึ่ง เจตนาฆ่าพ.ต.ท.สมชาติ กับ ร.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่อีกสองกระทง แต่โจทก์มิได้อุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยในข้อหาฆ่าบุคคลทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานฆ่า พ.ต.ท.สมชาติตามมาตรา ๒๘๙ กระทงหนึ่ง และผิดฐานฆ่า ร.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ตามมาตรา ๒๘๙ อีกกระทงหนึ่ง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า…..คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าพันตำรวจโทสมชาติเพื่อที่จำเลยจะได้หลบหนีให้พ้นอาญาในความผิดที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงพันตำรวจเอกสุชาติอันเป็นความผิดตามมาตรา ๒๘๙ (๗) และฐานฆ่าร้อยตำรวจโทพงษ์ศักดิ์เพื่อที่จะได้หลบหนีและปกปิดความผิดที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงพันตำรวจเอกสุชาติและพันตำรวจโทสมชาติอันเป็นความผิดตามมาตรา ๒๘๙ (๗) เช่นเดียวกัน ที่ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าบุคคลทั้งสองดังกล่าวซึ่งเป็นเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่และพิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดฐานฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่อันเป็นความผิดตามมาตรา ๒๘๙ (๒) ทั้งสองกระทงจึงเป็นการนอกเหนือไปจากที่โจทก์ฟ้องและไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๙๒ ปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาจึงแก้ไขเสียให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยในข้อหาเจตนาฆ่าพันตำรวจโทสมชาติ จันทร์ประสิทธิ์ และร้อยตำรวจโทพงษ์ศักดิ์กลิ่นพิมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ รวม ๒ กระทง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์.
