คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2077/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อโจทก์ได้ขอถอนฟ้องและศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องไปแล้วฎีกาในชั้นการคุ้มครองชั่วคราวระหว่างพิจารณาซึ่งเป็นคดีสาขาเป็นอันสิ้นผลบังคับไปโดยปริยายคดีไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยปัญหาตามที่โจทก์ฎีกาต่อไป

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของสิบตำรวจโทชินวรหรือชิณวรหรอือ้วน แซ่เอี๋ยว หรือ มานะเมธากิจให้ส่งมอบและโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามบัญชีทรัพย์เอกสารหมายเลข 4ท้ายฟ้อง อันดับที่ 1 ถึง 8 และอันดับที่ 10 เงินฝากในธนาคารอาวุธปืน รถยนต์และรถจักรยานยนต์ให้แก่โจทก์ในฐานะทายาทผู้มีสิทธิรับมรดก และให้เพิกถอนการเป็นผู้จัดการมรดกของจำเลยเพราะจำเลยยักย้ายมรดกปิดบังข้อความในพินัยกรรมและต้องคำพิพากษาว่าจ้างวานใช้ผู้อื่นฆ่าเจ้ามรดกถึงแก่ความตาย จำเลยจึงเป็นบุคคลที่ต้องถูกกำจัดมิให้รับมรดกฐานเป็นผู้ไม่สมควร จำเลยให้การต่อสู้คดี ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์ยื่นคำร้องขอให้อายัดทรัพย์ตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้องและอายัดเงินฝากซึ่งมีอยู่ในธนาคารต่าง ๆโดยสั่งห้ามธนาคารจ่ายเงินหากมีการถอนเงินฝากเป็นการชั่วคราวในระหว่างพิจารณาคดี
จำเลย ไม่ยื่น คำคัดค้าน
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยจำหน่ายจ่ายโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 14565, 14928 โฉนดเลขที่ 9241, 12463, 12464,8827, 8828, 8532, 6902 และ 6903 และให้อายัดเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารเอเชีย จำกัด สาขาภูเก็ตธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัดซึ่งจำเลยมีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีไว้กึ่งหนึ่งของยอดเงินที่มีอยู่ในบัญชีนับแต่ที่ธนาคารได้รับแจ้งคำสั่งอายัด สำหรับที่ดินแปลงอื่นไม่ปรากฎชื่อเจ้ามรดกเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ คดีไม่มีประเด็นวินิจฉัยถึง ส่วนรถยนต์ตามรายการจดทะเบียนเอกสารหมาย จ.10 มีการจดทะเบียนไปให้บุคคลที่สามแล้ว โจทก์ไม่ได้ฟ้องขอเพิกถอนการโอนจึงขอให้คุ้มครองชั่วคราวไม่ได้
ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ถอนคำสั่งอายัดที่ดินโฉนดเลขที่14565 ศาลชั้นต้นอนุญาต
โจทก์อุทธรณ์ ขอให้อายัดที่ดินตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้อง อันดับ1, 3, 4, 7 และ 8 และอายัดเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารออมสิน จำกัดสาขาภูเก็ต ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาถนนเทพกษัตรีย์ธนาคารกสิกรไทย สาขาภูเก็ต ธนาคารแหลมทอง จำกัด สาขาภูเก็ตธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาภูเก็ต ไว้ทั้งหมด เป็นการชั่วคราวในระหว่างการพิจารณา
จำเลยอุทธรณ์ ขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้นที่อายัดทรัพย์สินชั่วคราวก่อนพิพากษา
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา
ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง
ศาลชั้นต้น อนุญาต
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ขอคุ้มครองชั่วคราวระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นมีคำสั่งห้ามจำเลยจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์มรดกที่อยู่ในความครอบครองของจำเลยบางส่วนและอายัดเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารที่มีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของบัญชีไว้กึ่งหนึ่ง โจทก์อุทธรณ์ขอให้คุ้มครองชั่วคราวทรัพย์มรดกทั้งหมดตามคำร้อง ส่วนจำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน โจทก์สั่งฎีกาเป็นคดีนี้ เห็นว่า เมื่อคดีนี้โจทก์ได้ขอถอนฟ้องและศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องไปแล้ว ฎีกาในชั้นการคุ้มครองชั่วคราวระหว่างพิจารณาซึ่งเป็นคดีสาขาเป็นอันสิ้นผลบังคับไปโดยปริยายคดีไม่มีประโยชน์ที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยปัญหาตามที่โจทก์ฎีกาต่อไป
ให้ จำหน่ายคดี จาก สารบบความ ของ ศาลฎีกา

Share