คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2071/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การกระทำของผู้จัดหางานที่จะเป็นความผิดตามมาตรา 7 แห่งพ.ร.บ. จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 นั้น ผู้จัดหางานจะต้องเรียกหรือรับค่าบริการจากผู้สมัครงาน ฉะนั้นเมื่อมีบริษัทก. เป็นผู้ประกอบธุรกิจจัดหางานเป็นผู้เรียกเก็บเงินค่าบริการเองและจำเลยไม่อยู่ในฐานะผู้จัดหางาน แต่อยู่ในฐานะเป็นเพียงนายหน้าผู้หวังที่จะได้รับประโยชน์ตอบแทนจากบริษัทดังกล่าว และจำเลยยังไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ เลย เช่นนี้การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานเป็นผู้จัดหางานหรือร่วมจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก 2 คน ที่หลบหนีได้ร่วมกันหลอกลวงประชาชนด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งโดยกล่าวอ้างกับประชาชนทั่วไปว่าจำเลยกับพวกเป็นตัวแทนบริษัทแกรนด์ บิสเน็ซเซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งได้รับอนุญาตจัดหางานเพื่อส่งคนงานไปทำงานในต่างประเทศอันเป็นเท็จโดยการหลอกลวงดังกล่าวเป็นเหตุให้ นายนิพล จงบริบูรณ์ กับพวกรวม 14 คน หลงเชื่อและมองเงินค่าประกันในการเดินทางไปทำงานยังต่างประเทศจำนวน 73,000 บาท ให้แก่จำเลยกับพวกไป ซึ่งความจริงจำเลยมิได้รับอนุญาตจัดหางานจากนายทะเบียนตามกฎหมายขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ มาตรา 83, 91,341, 343 พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511มาตรา 7, 27 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 ให้จำเลยคืนหรือใช้เงินที่ยังไม่ได้คืนรวม 38,000 บาท แก่ผู้เสียหายทุกคน
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 มาตรา 7, 27 ให้จำคุก1 เดือน ข้อหาฉ้อโกง ประชาชนให้ยกฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีปัญหามาสู่ศาลฎีกาเฉพาะข้อหาความผิดต่อพรระาชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พงศ. 2511 มาตรา 7ซึ่งข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่คู่ความนำสืบว่า บริษัทแกรนด์ บีสเน๊ซเซ็นเตอร์ จำกัด มีนายณรงค์ ละมุดน้อยเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทดังกล่าวมีที่ทำการอยู่ที่กรุงเทพมหานคร มีนายประทุมศรีนราเป็นตัวแทนของบริษัทในเขตจังหวัดสุโขทัย จำเลยรู้จักกับนายประทุมศรีนรา เพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน นายประทุม ศรีนรา กับจำเลยเคยพาผู้เสียหายรวม 14 คน ไปสมัครทำงานบริษัท โดยผู้เสียหายกับบริษัทได้ทำสัญญากันไว้ มีนายณรงค์ ละมุดน้อย เป็นผู้รับเงินต่าง ๆจากผู้เสียหายแทนบริษัทและรับรองว่าจะส่งผู้เสียหายไปทำงานต่างประเทศภายในเวลาที่กำหนด จำเลยไม่ได้เกี่ยวข้อในสัญญาดังกล่าวก่อนนี้นายประทุม ศรีนรา เคยชักชวนจำเลยจัดหางานให้คนงานไปทำงานต่างประเทศโดยสัญญาจะให้ค่าตอบแทนแก่จำเลย 1,000 บาทต่อคนงานหนึ่งคน แต่จำเลยก็ยังไม่เคยได้รับค่าตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้นและไม่มีผู้เสียหายคนใดจ่ายค่าบริการให้แก่จำเลยแต่ประการใดเมื่อบริษัทไม่สามารถส่งผู้เสียหายไปทำงานต่างประเทศได้ จำเลยได้รับการขอร้องจากผู้เสียหายให้ช่วยเหลือ จำเลยจึงได้ติดต่อกับนายประทุม ศรีนรา และบริษัทแต่บริษัทไม่ยอมคืนเงินให้แก่ผู้เสียหายส่วนนายณรงค์ ละมุดน้อย ได้หลบหนีไปจำเลยจึงได้ยอมใช้เงินแก่ผู้เสียหายคนละ 2,500 บาท ตามที่ผู้เสียหายขอให้ชดใช้โดยผู้เสียหายจะไม่ดำเนินคดีกับจำเลยพร้อมทั้งมอบอำนาจให้จำเลยแจ้งความดำเนินคดีต่อ บริษัทและนายณรงค์ ละมุดน้อย แทนผู้เสียหายด้วยมีปัญหาว่าการกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดฐานเป็นผู้จัดหางานโดยไม่รับอนุญาตหรือไม่
พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511มาตรา 7 บัญญัติว่า ห้ามมิให้ผู้ใดจัดหางานโดยเรียกหรือรับค่าบริการเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจัดหางานจากนายทะเบียน ส่วนค่าบริการตามความหมายในมาตรา 4 นั้น หมายความถึงเงินหรือประโยชน์อย่างอื่นซึ่งเป็นค่าตอบแทนการจัดหางาน ศาลฎีกาเห็นว่า การกระทำของผู้จัดหางานที่จะเป็นความผิดตามมาตรา 7 ดังกล่าว ผู้จัดหางานจะต้องเรียกหรือรับค่าบริการจากผู้สมัครงาน แต่กรณีของจำเลยนี้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยไม่ได้เคยเรียกร้องหรือรับค่าบริการจากผู้สมัครงานซึ่งเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ แต่บริษัทแกรนด์ บีสเน็ซเซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ประกอบธุรกิจจัดหางานเป็นผู้เรียกหรือรับค่าบริการเอง และจำเลยก็ไม่อยู่ในฐานะผู้จัดหางานตามความหมายของมาตรา 4 ด้วย เพราะจำเลยไม่ได้ประกอบธุรกิจหางานให้แก่คนหางานหรือหาลูกจ้างให้แก่นายจ้าง จำเลยอยู่ในฐานะเป็นเพียงนายหน้าผู้หวังที่จะได้รับประโยชน์ตอบแทนจากบริษัทดังกล่าวเท่านั้นและจำเลยก็ยังไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆจากบริษัทเลย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานเป็นผู้จัดหางานหรือร่วมจัดหางานโดยไม่รับอนุญาต ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ในความผิดฐานนี้มาด้วยนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share