แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายกับพวกรวม 3 คน ถีบประตูห้องพักของจำเลยเพื่อจะเข้าไปทำร้ายจำเลยจนกลอนประตูหลุด ประตูเปิด แล้วเข้าไปทำร้ายจำเลยและจะทำร้ายภรรยาจำเลยซึ่ง มีครรภ์อยู่เป็นการกระทำทีอุกอาจและเป็นภยันตรายที่เกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายทั้งเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง การที่จำเลยใช้มีดแทงคนทั้งสาม แม้จะแทงหลายทีก็เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ การกระทำของจำเลยในขณะนั้นจึงไม่มีความผิด หลังจากผู้ตายวิ่งออกมาจากห้องพักของจำเลยแล้ว จำเลยติดตามออกมาและใช้มีดแทงผู้ตายอีก 3 ที เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายแม้การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกระชั้นชิดกับการกระทำของจำเลยในตอนแรกซึ่งเป็นการป้องกันโดยชอบด้วย กฎหมายแต่เมื่อจำเลยแทงผู้ตายในขณะที่หมดโอกาสทำร้ายจำเลยแล้ว การกระทำของจำเลยในตอนนี้จึงเป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันตาม ป.อ. มาตรา 69.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288และ 288, 80
จำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุป้องกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 และ 288, 80 ประกอบกับมาตรา 69 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามมาตรา 288 ประกอบมาตรา 69 ซึ่งเป็นบทหนัก ให้จำคุก 2 ปี
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ผู้ตายทั้งสองกับนายสมพรได้ร่วมกันถีบประตูห้องพักของจำเลยเพื่อจะเข้าไปทำร้ายจำเลยจนกลอนประตูหลุด ประตูเปิด แล้วคนทั้งสามได้เข้าไปทำร้ายจำเลย และจะทำร้ายภรรยาจำเลยนั้น เป็นการกระทำที่อุกอาจและเป็นภยันตรายที่เกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย ทั้งเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง แม้ผู้ตายทั้งสองกับพวกจะไม่มีอาวุธ แต่ก็มีจำนวนถึง 3 คนและการที่ผู้ตายกับพวกจะทำร้ายภรรยาจำเลยซึ่งมีครรภ์อยู่นั้นก็อาจทำให้ภรรยาจำเลยและทารกในครรภ์ได้รับอันตรายอย่างร้ายแรงการที่จำเลยใช้มีดแทงคนทั้งสามไป แม้จะแทงหลายที ก็เป็นการกระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ การกระทำของจำเลยในขณะนั้นจึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
ส่วนที่โจทก์ฎีกาต่อมาว่า หลังจากนายสมพรและผู้ตายอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ทราบชื่อออกมาจากห้องของจำเลยแล้ว จำเลยยังตามออกมาแทงผู้ตายดังกล่าวอีก 3 ที แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า และไม่เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุนั้น ฯลฯ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าหลังจากผู้ตายซึ่งไม่ทราบชื่อวิ่งออกมาจากห้องพักของจำเลยแล้วได้มานั่งอยู่ที่บริเวณหน้าห้องว่างถัดจากห้องพักของนายเอนกจำเลยได้ติดตามออกมาและใช้มีดแทงผู้ตายอีก 3 ที เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ศาลฎีกาเห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ติดตามผู้ตายออกมานอกห้องพักของจำเลยและแทงผู้ตายซ้ำอีกนี้เป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกระชั้นชิดกับการกระทำของจำเลยในตอนแรกซึ่งเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่เมื่อจำเลยใช้มีดแทงผู้ตายในขณะที่หมดโอกาศทำร้ายจำเลยแล้ว การกระทำของจำเลยในตอนนี้จึงเป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันจำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 69
พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288, 69 ให้จำคุก 3 ปี.