คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2064/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ให้เช่าไม่จำต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ให้เช่า เมื่อจำเลยได้ทำสัญญาเช่าห้องพิพาทจากโจทก์จำเลยต้องผูกพันตามสัญญาเช่านั้น เมื่อสัญญาเช่าสิ้นกำหนดเวลาเช่าแล้ว โจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้จำเลยจะโต้เถียงอำนาจโจทก์ว่าไม่ใช่เจ้าของ ไม่มีอำนาจฟ้องหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าห้องแถวสองชั้นของโจทก์มีกำหนด 3 ปีนับแต่เดือนสิงหาคม 2515 ถึงวันสิ้นเดือนกรกฎาคม 2518 โจทก์ไม่มีความประสงค์จะให้จำเลยเช่าต่อไปจึงมอบอำนาจให้ทนายความมีหนังสือบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าเมื่อครบกำหนดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2518 จำเลยทราบหนังสือบอกกล่าวและเลยวันครบกำหนดสัญญาเช่าแล้ว แต่จำเลยและบริวารไม่ยอมออกจากห้องเช่า ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องแถวของโจทก์ ให้จำเลยชำระค่าเสียหายเดือนละ 700 บาท ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2518 ไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกจากห้องแถวของโจทก์

จำเลยให้การว่าห้องพิพาทตั้งอยู่ในที่ดินราชพัสดุซึ่งเป็นของกรมธนารักษ์ผู้ดูแลรักษา โจทก์เช่าที่ดินปลูกห้องแถวกับกรมธนารักษ์แล้วผิดสัญญาเช่าเอาห้องพิพาทมาให้จำเลยเช่าช่วง กรมธนารักษ์บอกเลิกสัญญาเช่ากับโจทก์เมื่อพ.ศ. 2514 กรรมสิทธิ์ในห้องพิพาทตกเป็นของกรมธนารักษ์ตามสัญญาเช่ามาหลายปีแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิในห้องพิพาท และไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้องหากจะเสียหายก็ไม่เกินเดือนละ 350 บาท ขอให้ยกฟ้อง

วันชี้สองสถาน คู่ความรับกันว่าค่าเสียหายเท่ากับอัตราค่าเช่าเดือนละ350 บาท ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้ว สั่งงดสืบพยานโจทก์และจำเลยแล้ววินิจฉัยว่าจำเลยรับว่าเช่าห้องจากโจทก์ จะมาเถียงสิทธิของโจทก์ว่าห้องพิพาทเป็นของผู้อื่น ฟังไม่ขึ้น เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว จำเลยไม่ยอมออกโจทก์มีอำนาจฟ้องบังคับจำเลยและเรียกค่าเสียหายได้ พิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากห้องพิพาทให้จำเลยชำระค่าเสียหายเดือนละ 350 บาท ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2518 เป็นต้นไป

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การให้เช่าทรัพย์นั้น ผู้ให้เช่าไม่จำต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ให้เช่า จำเลยได้ทำสัญญาเช่าห้องพิพาทจากโจทก์โจทก์ย่อมมีสิทธิและหน้าที่ในฐานะเป็นผู้ให้เช่าตามสัญญา และจำเลยต้องผูกพันตามสัญญาเช่าที่ทำกับโจทก์ไว้ เมื่อสัญญาเช่าสิ้นกำหนดเวลาเช่าแล้วโจทก์ซึ่งเป็นผู้ให้เช่าย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยผู้เช่าได้ จำเลยจะโต้เถียงอำนาจโจทก์ว่าไม่ใช่เจ้าของ ไม่มีอำนาจฟ้องหาได้ไม่ ทั้งนี้ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 410/2515 ระหว่างนายปลั่ง โพธิ์อ่อน โจทก์ นายพรม ปลดทุกข์สิ้น จำเลย

พิพากษายืน

Share