แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
เมื่อตามคำให้การของจำเลยร่วมไม่ได้โต้แย้งว่าเดิมที่ดินของโจทก์และที่ดินของป.แบ่งแยกจากที่ดินแปลงเดียวกันเป็นเหตุให้เจ้าของที่ดินแปลงขณะแบ่งแยกซึ่งต่อมาตกเป็นของโจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาทางเดินบนที่ดินของป.ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1350การที่จำเลยยกปัญหาดังกล่าวขึ้นฎีกาจึงเป็นเรื่องที่จำเลยร่วมมิได้ให้การต่อสู้ไว้เป็นประเด็นศาลฎีการับวินิจฉัยให้ไม่ได้. โจทก์ฟ้องขอให้เปิดทางจำเป็นและเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดจำเลยและจำเลยร่วมต่อสู้ว่าทางพิพาทไม่ใช่ทางจำเป็นจำเลยมีสิทธิปิดทางพิพาทการกระทำของจำเลยไม่เป็นละเมิดเท่านั้นประเด็นแห่งคดีไม่มีเรื่องค่าทดแทนอันเกิดจากการใช้ทางจำเป็นเลยจำเลยร่วมจึงชอบที่จะไปว่ากล่าวเอาแก่โจทก์ในเรื่องนี้เป็นอีกคดีหนึ่งต่างหากที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้โจทก์เสียค่าทดแทนการใช้ทางจำเป็น(ทางพิพาท)ของโจทก์ให้แก่จำเลยร่วมเจ้าของที่ดินจึงนอกประเด็นแห่งคดีไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา142.
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ว่า ที่ดิน ของ โจทก์ ตก อยู่ ใน ที่ ล้อม ไม่ สามารถ ออกสู่ ทาง สาธารณะ ได้ จึง ต้อง ใช้ ที่ดิน ของ นาง เกษร ไทรงาม เป็นทางเดิน ออก สู่ ทางสาธารณะ จำเลย อาศัย อยู่ ใน ที่ดิน ของ นาง เกษรได้ ปิดกั้น ทาง ดังกล่าว ทำ ให้ โจทก์ เสียหาย ขอ ให้ จำเลย เปิดทางแก่ โจทก์ และ ชดใช้ ค่าเสียหาย พร้อม ดอกเบี้ย
จำเลย ให้การ ต่อสู้ คดี
ก่อน สืบพยาน ศาลชั้นต้น ได้ เรียก นาง เกษร ไทรงาม มา เป็น จำเลยร่วมตาม คำขอ ของ โจทก์
จำเลยร่วม ให้การ ว่า จำเลย เป็น ผู้ อนุญาต ให้ โจทก์ ใช้ ทาง พิพาทเป็น ทางเดิน ชั่วคราว เมื่อ จำเลย ร่วม รับ โอน ที่ดิน ดังกล่าว จากจำเลย และ ต้องการ ใช้ ที่ นั้น เต็ม เนื้อที่ จึง ขอ ให้ โจทก์ หา ทางอื่น ออก สู่ ทางสาธารณะ จำเลยร่วม ใช้ สิทธิ ปิดทาง โดย สุจริต ไม่เป็น ละเมิด
ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้ จำเลยร่วม เปิดทาง พิพาท โดย จำเลยร่วม มีสิทธิ กัน ที่ดิน แนวกำแพงบ้าน ของ จำเลยร่วม ไป กว้าง ไม่เกิน 15เซนติเมตร ตลอดแนว ยาว เป็น เส้นตรง ออก สู่ ทางสาธารณะ ทั้ง นี้ โดยโจทก์ ต้อง เสีย ค่าทดแทน แก่ จำเลยร่วม ก่อน เป็น รายปี ปีละ 1,200บาท
โจทก์ และ จำเลย ร่วม อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา แก้ เป็น ว่า ให้ โจทก์ ใช้ ทาง พิพาท กว้าง 1.50เมตร ได้ ตาม ฟ้อง นอกจาก ที่ แก้ ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น
โจทก์ และ จำเลย ร่วม ฎีกา
ข้อเท็จจริง ฟัง ได้ ว่า ที่ดิน ของ โจทก์ ตก อยู่ ใน ที่ ล้อม ไม่ มีทาง ออก ถึง ทาง สาธารณะ ได้ คง มี ทาง พิพาท ที่ โจทก์ ใช้ เข้า ออกสู่ ถนน สาธารณะ ได้
ศาลฎีกา วินิจฉัย ปัญหา ข้อกฎหมาย ว่า จำเลยร่วม ฎีกา ว่า ที่ดิน ของโจทก์ ทาง ด้าน ทิศใต้ ติด ทางพลี (ทางสาธารณะ) และ โจทก์ มี สิทธิเรียกร้อง เอา ทางเดิน ได้ เฉพาะ บน ที่ดิน ของ นาง เปื้อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350 นั้น เห็น ว่า ตาม คำให้การ ของจำเลยร่วม ไม่ ได้ โต้แย้ง ว่า เดิม ที่ดิน ของ โจทก์ และ ที่ดิน ของนาง เปื้อน แบ่งแยก จาก ที่ดิน แปลง เดียวกัน เป็น เหตุ ให้ เจ้าของที่ดิน แปลง ขณะ แบ่งแยก ซึ่ง ต่อมา ตก เป็น ของ โจทก์ มี สิทธิเรียกร้อง เอา ทางเดิน บน ที่ดิน ของนาง เปื้อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350 ฎีกา ของ จำเลยร่วม จึง เป็นฎีกา ใน เรื่อง ที่ จำเลยร่วม มิได้ ให้การ ต่อสู้ ไว้ เป็น ประเด็นศาลฎีกา รับ วินิจฉัย ให้ ไม่ ได้
ปัญหา สุดท้าย ตาม ฎีกา ของ โจทก์ ว่า โจทก์ ไม่ ต้อง เสีย ค่าทดแทนให้ แก่ จำเลยร่วม หาก ต้อง เสีย ไม่ควร เกิน ปีละ 300 บาท เห็น ว่าคดี นี้ โจทก์ ฟ้อง ขอ ให้ เปิดทาง จำเป็น เรียก ค่าเสียหาย ฐาน ละเมิดจำเลย และ จำเลยร่วม ต่อสู้ ว่า ทาง พิพาท ไม่ ใช่ ทาง จำเป็น จำเลย มีสิทธิ ปิดทาง พิพาท การ กระทำ ของ จำเลย ไม่ เป็น ละเมิด เท่านั้นประเด็น แห่ง คดี ไม่ มี เรื่อง ค่าทดแทน อัน เกิดจาก การ ใช้ ทางจำเป็น เลย จำเลยร่วม ชอบ ที่ จะ ว่ากล่าว เอา แก่ โจทก์ ใน เรื่อง นี้เป็น อีก คดีหนึ่ง ต่างหาก ที่ ศาลล่าง ทั้งสอง พิพากษา ให้ โจทก์ เสียค่าทดแทน การ ใช้ ทาง จำเป็น (ทางพิพาท) ของ โจทก์ ให้ แก่ จำเลยร่วมเจ้าของ ที่ดิน จึง นอกประเด็น แห่ง คดี ไม่ ชอบ ด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 ฎีกา โจทก์ ฟัง ขึ้น เป็นบางส่วน
พิพากษา แก้ เป็น ว่า โจทก์ ไม่ ต้อง เสีย ค่าทดแทน ให้ แก่ จำเลยร่วม แต่ ไม่ ตัด สิทธิ จำเลยร่วม จะ ไป ว่ากล่าว กับ โจทก์ เป็น อีก คดีหนึ่ง นอกจาก ที่ แก้ ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียม ใน ชั้น ฎีกา ให้ เป็น พับ.