แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยยื่นฎีกาทั้งในฐานะส่วนตัวและผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตร์ จำเลยตายในระหว่างฎีกา ภริยาของจำเลยซึ่งเป็นทายาทผู้ใหญ่คนเดียวและเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตร์เหล่านั้นแถลงไม่ขอรับมฤดกความ ศาลฎีกาสั่งจำหน่ายคดี
(หมายเหตุ คดีนี้เป็นเรื่องจำเลยเถียงว่าตามพินัยกรรมตกได้แก่บุตร์ 8 คน ภริยาผู้ตายก็เป็นมารดาเด็กทั้ง 8 คน ไม่มีใครจะมาขอรับมฤดกความได้ ศาลฎีกาจึงจำหน่ายคดีโดยไม่ต้องรอ 1 ปีตาม ม.42)
จำหน่ายคดีเพราะไม่มีผู้รับมฤดกความนั้น ศาลสั่งคืนค่าขึ้นศาล
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์มฤดกของ ก.จากจำเลยซึ่งเป็นบิดาของนางสาวสมบุญ จำเลยให้การต่อสู้และยื่นคำร้องสอดในฐานะเป็นผู้แทนของบุตร์อีก ๗ คน ซึ่งเป็นผู้เยาว์ อ้างว่าเด็กทั้ง ๗ คนนั้นมีสิทธิได้รับมฤดกคนละส่วนด้วย
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่านางสาวสมบุญมีสิทธิได้รับมฤดก ก. ๑ ใน ๓ และให้ยกคำร้องของผู้ร้องสอด
จำเลยในฐานะเป็นจำเลยและผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กฎีกา
ในระหว่างฎีกาจำเลยตาย นางเป้าภรรยาจำเลยและเป็นมารดาของเด็กในคดีนี้ยื่นคำแถลงต่อศาลฎีกาว่าทายาทของจำเลยซึ่งเป็นผู้ใหญ๋มีแต่นางเป้าผู้เดียว จึงไม่ติดใจดำเนินคดีต่อไป โจทก์ไม่คัดค้าน
ศาลฎีกาตัดสินว่าเมื่อจำเลยถึงแก่กรรมและทายาทของจำเลยไม่ติดใจรับมฤดกความต่อไป และผู้แทนโดยชอบธรรมของเดก็ก็ไม่ติดใจเข้าว่าคดีต่อไป จึงให้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาให้แก่ฝ่ายฎีกา