คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4116/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การกระทำที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของความผิดตาม พ.ร.บ.กำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด พ.ศ. 2522 มาตรา 43 คือการฝ่าฝืนประกาศที่คณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดใช้อำนาจประกาศตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 24 ประกาศดังกล่าวเป็นการกำหนดรายละเอียดของการกระทำที่ถือว่าอย่างไรจึงจะเรียกว่าเป็นการฝ่าฝืน อันเป็นการกำหนดรายละเอียดในส่วนที่เป็นหลักเกณฑ์ของความผิด มิใช่กำหนดหลักเกณฑ์แห่งความผิดตามมาตรา 43 เมื่อคณะกรรมการฯ ออกประกาศฉบับที่ 88 พ.ศ. 2528แล้ว จำเลยที่ 2 กระทำการฝ่าฝืนความในข้อ 5 ของประกาศนั้นจำเลยที่ 2 จึงมีความผิดตามมาตรา 43 แม้ต่อมามีประกาศฉบับที่ 101พ.ศ. 2529 ยกเลิกความในข้อ 5 ของประกาศฉบับที่ 88 พ.ศ. 2528ก็เป็นเพียงการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของหลักเกณฑ์ที่เป็นความผิดมิใช่เป็นการยกเลิกหลักเกณฑ์ที่เป็นความผิดที่จำเลยที่ 2 ได้กระทำสำเร็จไปแล้ว ถือไม่ได้ว่าประกาศฉบับที่ 101พ.ศ. 2529 เป็นบทกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังยกเลิกการกระทำที่เป็นความผิดของจำเลยที่ 2 ตาม ป.อ. มาตรา 2 วรรคสอง จำเลยที่ 2จึงมิใช่ผู้ที่พ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามพระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด พ.ศ. 2522 มาตรา 8, 23, 24,27, 43, 47
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดฐานร่วมกันกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดพ.ศ. 2522 มาตรา 8, 23, 24, 27, 43 และ 47 ให้ปรับคนละ 30,000 บาทหากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าปรับให้ยึดทรัพย์สินของจำเลยที่ 1ใช้ค่าปรับ หากจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยที่ 3 ขอถอนอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์อนุญาตและจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ 3
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาวินิจฉัยเฉพาะข้อกฎหมายว่าการกระทำผิดของจำเลยที่ 2 นั้นมีบทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังว่าการกระทำนั้นไม่เป็นความผิดต่อไปหรือไม่…ข้อเท็จจริงยุติตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาว่า จำเลยที่ 2 กระทำการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดฉบับที่ 88 พ.ศ. 2528 เรื่อง กำหนดมาตรการในการจำหน่ายสินค้าควบคุม ข้อ 5 ต่อมาได้มีประกาศคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด ฉบับที่ 101 พ.ศ. 2529 เรื่อง แก้ไข ปรับปรุงประกาศคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดฉบับที่ 88 พ.ศ. 2528 ให้ยกเลิกความในข้อ 5… แห่งประกาศคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด ฉบับที่ 88พ.ศ. 2528 เห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 2 นั้น เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ กำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด พ.ศ. 2522มาตรา 43 ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้ใดฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการตามมาตรา 24(1)(2)(4)(6)(7)(8)(9)(10)(11)(12) หรือ (14)…ต้องระวางโทษจำคุก…” การกระทำที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการกระทำผิดคือ การฝ่าฝืนประกาศที่คณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดใช้อำนาจประกาศตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 24เมื่อคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดอาศัยอำนาจตามมาตรา 24(3)(4)(5) ออกประกาศ ฉบับที่ 88 พ.ศ. 2528แล้ว จำเลยที่ 2 กระทำการฝ่าฝืนประกาศดังกล่าว จำเลยที่ 2 จึงมีความผิดตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 43 ตามที่กล่าวข้างต้น การที่ประกาศฉบับที่ 88 พ.ศ. 2528 ข้อ 5 กำหนดว่า “ให้บุคคลตามข้อ4(1)(2)(3) และ (4) ที่ได้ดำเนินการผลิต ว่าจ้างให้ผลิต จำหน่ายหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าควบคุมตามข้อ 3 อยู่ในวันที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับแจ้งรายละเอียดของตนต่อเลขาธิการภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับต่อไปนี้…”นั้น เป็นการกำหนดรายละเอียดของการกระทำที่จะถือว่าอย่างไรจึงจะเรียกว่าเป็นการฝ่าฝืน อันเป็นการกำหนดรายละเอียดในส่วนที่เป็นหลักเกณฑ์ของความผิด มิใช่เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์แห่งความผิดตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 43 ดังนั้น การที่ต่อมาได้มีประกาศฉบับที่ 101 พ.ศ. 2529 ยกเลิกความในข้อ 5 แห่งประกาศฉบับที่ 88พ.ศ. 2528 จึงเป็นการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของหลักเกณฑ์ที่เป็นความผิด มิใช่เป็นการยกเลิกหลักเกณฑ์ที่เป็นความผิดที่จำเลยที่ 2 ได้กระทำสำเร็จไปแล้ว หรือถือไม่ได้ว่าประกาศฉบับที่ 101 พ.ศ. 2529 นั้น เป็นบทกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังยกเลิกการกระทำที่เป็นความผิดของจำเลยที่ 2 ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง จำเลยที่ 2จึงมิใช่ผู้ที่พ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด…”
พิพากษายืน.

Share