คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 206/2463

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ.๒๔๖๑ เวลากลางคืนจำเลยลักผ้าขาวม้ากับเงินรวมราคา ๔ บาท ๖๘ สตางค์ของนายฮั่ว สงวนไป ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๙๓ จำเลยเคยรับดทษจำคุกมาครั้งหนึ่งแล้ว ขอให้เพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา ๗๒ ฯ
จำเลยให้การปฏิเสธข้อหา แลแก้ว่าเวลาเกิดเหตุนั้นจำเลยเมาสุราเข้าไปนอนในโรงขายยาฝิ่นตำบลหัวลำโพง จำเลยเอาเท้าไปถูกจีนคนหนึ่ง จีนคนนั้นพูดไล่จำเลย ๆ กับจีนคนนั้นพูดเถียงกันขึ้นแล้วพวกจีนเจ้าของโรงยาฝิ่นมาไล่จำเลย ๆ ออกมาจากโรงนาฝิ่นแล้ว จีนคนที่พูดเถียงกับจำเลยตามมาจับตัวจำเลย แลเอาผ้าขาวม้าของจีนคนนั้นให้ตำรวจพระนครบาลหาว่า จำเลยลักผ้าขาวม้าของเขา จำเลยให้การรับว่าเคยรับโทษจำคุกมาแล้วจริง ฯ
ศาลพระราชอาญาพิจารณาคดีแล้ว เห็นว่าตัวนายฮั่วหงวนเจ้าทรัพย์ไม่ได้มาเปนพยาน โจทย์มีพยานเห็นจำเลยเอาผ้าขาวม้าหนีบรักแร้ออกไปจากโรงยาฝิ่น แต่พยานไม่ทราบว่าเปนผ้าขาวม้าของใคร เห็นว่าพยานโจทย์ไม่พอจะลงโทษจำเลย จึงพิพากษายกฟ้องโจทย์ ฯ
โจทย์อุทธรณ ศาลอุทธรณฟังว่าจำเลยลักผ้าขาวม้าของนายฮั่วหงวนจริง พิพากษากลับคำพิพากษาศาลพระราชอาญาให้ลงโทษจำคุกจำเลยฐานลักทรัพย์เวลากลางคืน ตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๙๓ ข้อ ๑ มีกำหนด ๖ เดือน ให้เพิ่มโทษจำเลยตามาตรา ๗๒ อีก ๑ ใน ๓ รวมให้จำคุกจำเลยมีกำหนด ๘ เดือน ฯ
จำเลยทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาคัดค้านในข้อเท็จจริง ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนเรื่องนี้แล้ว เห็นว่าข้อเท็จจริงในคดีเรื่องนี้ แม้ตัวเจ้าทรัพย์จะไม่ได้มาเปนพยานในชั้นศาล พระราชอาญาพิจารณาก็ดี โจทย์มีพยานแลเหตุผลอื่นประกอบฟังได้สนิธว่า จำเลยได้ลักทรัพย์นี้จริง ศาลอุทธรณลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์นั้นชอบแล้ว ให้ยกฎีกาของอ้ายวันจำเลยเสีย ฯ

Share