คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2059/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ที่ดินเดิมมีชื่อผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในโฉนดรวมกัน15 คน เมื่อผู้ร้องไม่มีพยานหลักฐานใดแสดงให้เห็นว่าเจ้าของกรรมสิทธิ์คนใดครอบครองอย่างเป็นเจ้าของแต่ผู้เดียว กรณีจึงถือว่าทุกคนได้ครอบครองร่วมกัน แม้ผู้ใดจะไม่ได้เข้าอยู่อาศัยหรือทำกินในที่ดิน ก็ถือว่าคนที่อยู่อาศัยหรือทำกินครอบครองแทนผู้อื่นด้วย การที่ผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดได้รับโอนกรรมสิทธิ์จากเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่มีชื่อในอันดับ 1-8 ถือว่าผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดได้ครอบครองสืบสิทธิจากผู้โอนในอันดับ 1-8 อันเป็นการครอบครองแทนผู้มีชื่อในโฉนดอันดับ 9-15 ด้วย ประกอบกับการครอบครองของผู้ร้องทั้งสิบเอ็ด ต่อมาก็มิได้มีพฤติการณ์ใดที่จะถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนลักษณะการครอบครองที่ดินมาเป็นของผู้ร้องแต่ละคนการครอบครองร่วมกันเช่นนี้จึงมิใช่เป็นการครอบครองปรปักษ์อันจะได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382

ย่อยาว

ผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดยื่นคำร้องว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 1389 ตำบลคุ้งเผาถ่าน อำเภอบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดได้เข้าครอบครองทั้งแปลงด้วยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลา 40 ปีแล้ว จึงได้กรรมสิทธิ์ ขอให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งว่าผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 1389ทั้งแปลง
ศาลได้ประกาศนัดไต่สวนตามระเบียบแล้ว ไม่มีผู้ใดคัดค้าน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 1389 ตำบลคุ้งเผาถ่าน อำเภอบางขุนเทียน กรุงเทพมหานครเนื้อที่ 460 ตารางวา เมื่อปี 2486 มีเจ้าของกรรมสิทธิ์รวม 15 คนคือ 1. นายเรียม จ้อยปลื้ม 2. นายโท สังข์ติถี3. นายเก็บ สังข์ดิถี 4. นางเฉลิม สุขเฟื่องฟู 5. นางสายเฉลิมพันธ์ 6. นางใจ 7. นางไปล่ 8. นายล้อม 9. นางปุ่น10. นายรอด 11. นายเถ่ว 12. นางสาวชุ่ม 13. นายเพี้ยน14. นางผิน และ 15 นางสุด แต่บุคคลที่ได้ครอบครองที่ดินทั้งโฉนดมีอยู่จริงเพียง 8 คน คือ อันดับ 1-8 บุคคลดังกล่าวได้ครอบครองเรื่อยมาและได้มีการโอนกรรมสิทธิ์มายังผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดในปัจจุบัน ซึ่งผู้ร้องได้ครอบครองและปลูกบ้านอาศัยอยู่ในที่ดินดังกล่าว ส่วนบุคคลอันดับ 9-15 ที่มีชื่อในโฉนด ไม่เคยเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินเลย
พิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยในชั้นนี้ว่าผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 1389 โดยการครอบครองปรปักษ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382หรือไม่ ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวเห็นได้ว่าที่ดินเดิมมีชื่อผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในโฉนดร่วมกัน 15 คน ผู้ร้องไม่มีพยานหลักฐานใดแสดงให้เห็นว่าเจ้าของกรรมสิทธิ์คนใดครอบครองอย่างเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว ถือว่าทุกคนได้ครอบครองร่วมกันแม้ผู้ใดจะไม่ได้เข้าอยู่อาศัยหรือทำกินในที่ดินก็ถือว่าคนที่อยู่อาศัยหรือทำกินครอบครองแทนผู้อื่นด้วย ต่อมาผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดได้รับโอนกรรมสิทธิ์จากเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่มีชื่อในอันดับ 1-8ถือว่าผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดได้ครอบครองสืบสิทธิจากผู้โอนในอันดับ 1-8เป็นการครอบครองแทนผู้มีชื่อในโฉนดอันดับ 9-15 ด้วย การครอบครองของผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดต่อมาก็มิได้มีพฤติการณ์ใดที่จะถือว่าเป็นการเปลี่ยนลักษณะการครอบครองที่ดินมาเป็นของผู้ร้องแต่ละคนการครอบครองร่วมกันเช่นนี้มิใช่เป็นการครอบครองปรปักษ์อันจะได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาผู้ร้องทั้งสิบเอ็ดฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share