แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พุทธศักราช 2457 มาตรา 30 มิได้กำหนดให้การเลือกตั้งกำนันเป็นอำนาจสิทธิขาดของนายอำเภอหรือผู้ว่าราชการจังหวัดโดยเฉพาะ ดังนั้นเมื่อการเลือกตั้งมิได้เป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้ซึ่งจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ จึงเป็นกรณีที่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งด้วยผู้หนึ่งถูกโต้แย้งสิทธิตามกฎหมายแพ่งผู้ร้องจึงมีสิทธิที่จะใช้สิทธิทางศาลร้องขอให้สั่งว่าการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นการมิชอบ และขอให้ศาลสั่งให้จัดให้มีการเลือกตั้งกำนันใหม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการเลือกตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน พ.ศ. 2515 ข้อ 17 กำหนดไว้ว่า บัตรเลือกตั้งซึ่งมิใช่ คณะกรรมการเลือกตั้งจัดทำขึ้นให้ถือว่าเป็นบัตรเสีย จึงมีความหมายรวมถึงบัตรปลอมด้วย และถือได้ว่าบัตรปลอมเป็นบัตรเลือกตั้งฉะนั้นเมื่อการตรวจนับคะแนนปรากฏว่ามีบัตรเลือกตั้งเกินกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งแม้จะมีบัตรปลอมรวมอยู่ด้วย คณะกรรมการเลือกตั้งก็ต้องจัดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ทันทีตามข้อ 16 แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า การเลือกตั้งกำนันตำบลสระจรเข้ อำเภอด่านขุนทดจังหวัดนครราชสีมา เป็นไปโดยมิชอบ เพราะปรากฏจากการนับคะแนนว่ามีบัตรเลือกตั้งทั้งบัตรดี บัตรปลอม และบัตรเสียเกินจำนวนคนที่มาใช้สิทธิลงคะแนน ๒๙ บัตร คณะกรรมการหรือนายอำเภอด่านขุนทดจะต้องประกาศยกเลิกการเลือกตั้งแล้วทำการเลือกตั้งใหม่ แต่ประธานกรรมการกลับประกาศแต่งตั้งให้นายสวัสดิ์เป็นกำนันตำบลสระจรเข้ ทำให้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งได้รับความเสียหาย จึงขอให้มีคำสั่งว่าการเลือกตั้งไม่ชอบ ให้นายอำเภอด่านขุนทดทำการเลือกตั้งใหม่ และสั่งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งและสมัครรับเลือกตั้งของนายสวัสดิ์
นายอำเภอด่านขุนทด กับนายจรูญ ศรีสุกใส และนายสวัสดิ์ โคกขุนทด ยื่นคำคัดค้านในทำนองเดียวกันว่า ผู้ร้องมิใช่ผู้เสียหาย ไม่มีสิทธินำคดีร้องต่อศาลการแต่งตั้งถอดถอนกำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ผู้เดียวบัตรปลอมมิใช่บัตรเลือกตั้งที่จะนับเป็นบัตรดีบัตรเสีย การเลือกตั้งเป็นไปโดยชอบแล้ว ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นฟังคำแถลงของคู่ความทั้งสองฝ่ายแล้วให้งดการไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่า การเลือกตั้งกำนันตำบลสระจรเข้ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมาตามคำร้องไม่ชอบ ให้นายอำเภอด่านขุนทดจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเลือกตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน พ.ศ. ๒๕๑๕ ข้อ ๑๖ คำขอนอกจากนี้ให้ยก
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ มาตรา ๓๐ ซึ่งแก้ไขโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๓๖๔ ข้อ ๓ บัญญัติให้นายอำเภอจัดให้มีการเลือกกำนัน ฯลฯ เมื่อราษฎรที่มาลงคะแนนเสียงส่วนมากเลือกผู้ใดแล้วให้ถือว่าผู้นั้นเป็นกำนัน และให้นายอำเภอรายงานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อออกหนังสือสำคัญให้ไว้เป็นหลักฐาน ฯลฯ วิธีการเลือกกำนันให้เป็นไปตามระเบียบที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด และกระทรวงมหาดไทยออกระเบียบดังกล่าวคือ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเลือกตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน พ.ศ. ๒๕๑๕ ตามมาตรา ๓๐ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวมิได้กำหนดให้การเลือกตั้งกำนันเป็นอำนาจสิทธิขาดของนายอำเภอหรือผู้ว่าราชการจังหวัดโดยเฉพาะ ฉะนั้นเมื่อมีปัญหาว่าจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่เพราะเหตุที่การเลือกตั้งมิได้เป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้ จึงเป็นกรณีที่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งด้วยผู้หนึ่งถูกโต้แย้งสิทธิตามกฎหมายแพ่ง ผู้ร้องจึงมีสิทธิที่จะใช้สิทธิทางศาลร้องขอให้สั่งว่าการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นการเลือกตั้งมิชอบ และขอให้ศาลสั่งให้นายอำเภอด่านขุนทดจัดให้มีการเลือกตั้งกำนันใหม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๕๕
ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการเลือกตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน พ.ศ. ๒๕๑๕ ข้อ ๑๖ กำหนดไว้ว่า การตรวจนับคะแนนถ้าปรากฏว่ามีบัตรเลือกตั้งเกินกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง คณะกรรมการเลือกตั้งต้องจัดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ทันที ส่วนบัตรปลอมเป็นบัตรเลือกตั้งหรือไม่นั้น เห็นว่า ตามข้อ ๑๗ แห่งระเบียบดังกล่าว กำหนดไว้ว่า บัตรเลือกตั้งที่ให้ถือว่าเป็นบัตรเสียมีอยู่ ๓ ประเภท ประเภทหนึ่งคือบัตรที่มิใช่คณะกรรมการเลือกตั้งจัดทำขึ้น ซึ่งมีความหมายรวมถึงบัตรปลอมด้วย จึงถือได้ว่าบัตรปลอมเป็นบัตรเลือกตั้ง ฉะนั้นเมื่อคู่ความรับกันว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ๖๗๘ คน แต่นับบัตรเลือกตั้งได้ ๖๙๙ บัตร ซึ่งเกินจำนวนผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง การที่คณะกรรมการเลือกตั้งไม่จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่จึงเป็นการไม่ชอบด้วยระเบียบดังกล่าว
พิพากษายืน