คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2048/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

บทบัญญัติมาตรา 17 สัตต แห่งพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. 2495 ไม่ใช่เรื่องนิรโทษกรรม แต่เป็นหลักเกณฑ์ที่ผู้กระทำความผิดได้รับการยกเว้นไม่ให้ถูกฟ้องสำหรับความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์เท่านั้น จำเลยกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญาจึงไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะได้รับยกเว้นมิให้ฟ้อง ปัญหาว่าจำเลยได้รับนิรโทษกรรม และนับโทษต่อไม่ได้นั้นเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นมาวินิจฉัยได้ การจะนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีอื่นหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาลแม้คดีอื่นและคดีนี้ศาลวางโทษจำคุกตลอดชีวิตเช่นเดียวกันศาลใช้ดุลพินิจให้นับโทษต่อได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายหลายนัดถึงแก่ความตายโดยเจตนาฆ่า ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83และนับโทษต่อจากโทษในคดีอาญาเรื่องอื่นของศาลชั้นต้น จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83จำคุกตลอดชีวิต และนับโทษจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยได้รับนิรโทษกรรม และนับโทษต่อไม่ได้นั้น เห็นว่าปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ศาลอุทธรณ์จะมิได้วินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายข้อนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นมาวินิจฉัยได้และเห็นสมควรวินิจฉัยไปเสียทีเดียวโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย จำเลยฎีกาว่าหากฟังได้ว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง จำเลยก็ได้รับนิรโทษกรรมตามพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. 2495มาตรา 17 สัตต เพราะจำเลยได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขตามบทมาตราดังกล่าวครบถ้วนแล้ว เห็นว่า หลักเกณฑ์ตามบทมาตราดังกล่าวไม่ใช่นิรโทษกรรมแต่เป็นเรื่องที่ผู้กระทำความผิดได้รับยกเว้นไม่ให้ถูกฟ้องสำหรับความผิดที่ต้องหานั้น และความผิดที่จะได้รับยกเว้นไม่ให้ฟ้องตามบทมาตราดังกล่าวจะต้องเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์เท่านั้นจึงจะได้รับยกเว้นมิให้ฟ้อง แต่ความผิดคดีนี้เป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา จึงไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะได้รับยกเว้นมิให้ฟ้อง ส่วนที่จำเลยฎีกาปัญหาข้อกฎหมายอีกข้อหนึ่งว่าศาลจะนับโทษจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 537/2530 ของศาลชั้นต้นไม่ได้ เพราะในคดีดังกล่าว และคดีนี้ศาลวางโทษจำคุกตลอดชีวิตเช่นเดียวกัน เห็นว่าการจะนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีอื่นหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล ดังนั้นที่ศาลล่างทั้งสองให้นับโทษจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษในคดีดังกล่าวแล้วข้างต้นจึงชอบแล้ว ฎีกาจำเลยในปัญหาข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share