แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การประกอบกิจการค้าของจำเลย คือการส่งสินค้าไปจำหน่ายยังต่างประเทศโดยจำเลยรับสินค้ายางของโจทก์ไปจำหน่ยในนามของจำเลย จำเลยได้ค่าตอบแทนจากโจทก์เป็นบำเหน็จร้อยละ 10 เมื่อจำเลยรับเงินจากลูกค้าในต่างประเทศส่งมาตามเลตเตอร์ออฟเครดิต มีการหักค่าบำเหน็จร้อยละ 10 ที่จำเลยมีสิทธิได้จากการขายก่อนกับหักค่าที่จำเลยทดรองจ่ายเป็นค่าระวางเรือ ค่าประกันภัยและอื่นๆ ออกจากเงินที่ลูกค้าส่งมาแล้วด้วยเหลือเท่าใดเป็นเงินที่จำเลยต้องชำระให้โจทก์ ดังนี้ จำเลยจึงเป็นตัวแทนค้าต่างของโจทก์กรณีมิใช่จำเลยซื้อสินค้าจากโจทก์ คดีโจทก์หาขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1) ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันเป็นตัวแทนค้าต่างโจทก์ขายยางรัดที่โจทก์เป็นผู้ผลิตให้แก่ลูกค้าในต่างประเทศ จำเลยร่วมกันสั่งซื้อกล่องกระดาษจากผู้อื่นโดยขอให้โจทก์ชำระราคาแทน โจทก์ชำระราคาแทนให้หลายครั้ง จำเลยเพิกเฉยไม่ชำระเงินค่าก่องกระดาษให้โจทก์ นอกจากนั้นจำเลยยังคิดเอาค่าตอบแทนจากการเป็นตัวแทนค้าต่างของโจทก์เกินไปจากที่มีสิทธิ ทั้งยังคิดค่าระวางบรรทุกสินค้าเอากับโจทก์เกินกว่าที่จำเลยจ่ายจริง ขอศาลบังคับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินทั้งสามรายการดังกล่าวรวมเป็นเงิน ๑๓๘,๓๖๘.๑๔ บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยไม่ได้ร่วมกันสั่งซื้อกล่องกระดาษและไม่ได้ให้โจทก์ชำระราคาแทนไปก่อนดังฟ้อง จำเลยซื้อยางรัดจากโจทก์เพื่อส่งไปขายลูกค้าของจำเลยในต่างประเทศ การซื้อกล่องกระดาษบรรจุหีบห่อยางรัดเป็นหน้าที่ของโจทก์การซื้อขายยางรัดเป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด จำเลยมิได้เป็นตั้วแทนค้าต่างของโจทก์แต่โจทก์ต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการขนสินค้า การบรรจุหีบห่อ รวมถึงค่าระวาง บรรทุกตามฟ้อง โจทก์มิได้ฟ้องภายใน ๒ ปี นับแต่รู้หรือควรรู้ว่ามีสิทธิเรียกร้อง จึงขาดอายุความ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยต้องรับผิดในเรื่องสั่งซื้อกล่อง ค่าบำเหน็จตอบแทนและค่าระวางเรือที่จำเลยคิดเกินไป พิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงิน ๑๓๑,๑๕๐.๑๔ บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยมิได้เป็นตัวแทนค้าต่างของโจทก์ จำเลยซื้อสินค้าจากโจทก์ คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๕ (๑) แล้ว และไม่มีการคิดเงินเกินที่จำเลยจะต้องคืนให้โจทก์นั้น เห็นว่าจำเลยที่ ๑ เบิกความว่าจำเลยไม่ได้รับสินค้าแต่เฉพาะจากโจทก์เท่านั้น จากบุคคลอื่นจำเลยก็รับสินค้าส่งต่างประเทศด้วย เกี่ยวกับโจทก์ จำเลยที่ ๑ เบิกความรับว่าเอกสารหมาย จ.๓, จ.๖, จ.๗, จ.๑๐, จ.๒๗, จ.๓๔, จ.๔๑, จ.๔๙, จ.๕๗ และ จ.๖๑ นั้น จำเลยทำมาให้โจทก์ โดยจำเลยที่ ๑ อธิบายถึงรายการต่างๆ ในเอกสารเหล่านี้ระบุไว้ว่า มีรายการที่จำเลยรับเงินจากลูกค้าในต่างประเทศส่งมาตามเลตเตอร์ออฟเครดิต มีรายการหักค่าตอบแทนร้อยละ ๑๐ ที่จำเลยมีสิทธิได้จากการขายสินค้าของโจทก์ตามข้อตกลง กับมีรายการที่จำเลยทดรองจ่ายเป็นค่าระวางเรือ ค่าประกันภัยและอื่นๆ นำไปหักออกจากเงินที่ลูกค้าส่งมาแล้วเหลือเป็นเงินที่จำเลยต้องชำระให้โจทก์ ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าในการประกอบกิจการค้าของจำเลยคือการส่งสินค้าไปจำหน่ายยังต่างประเทศนั้น จำเลยรับสินค้านางของโจทก์ไปจำหน่ายในนามของจำเลย จำเลยได้ค่าตอบแทนจากโจทก์เป็นบำเหน็จร้อยละ ๑๐ จำเลยจึงเป็นตัวแทนค้าต่างของโจทก์ กรณีมิใช่จำเลยซื้อสินค้าจากโจทก์ คดีโจทก์หาขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๕ (๑) ไม่
พิพากษายืน