แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
หน้าที่หลักของเครื่องหมายการค้า คือหน้าที่บอกแหล่งที่มาของสินค้าและความแตกต่างระหว่างสินค้า หมายความว่า เครื่องหมายการค้าจะต้องบ่งบอกได้ว่า สินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้ามีแหล่งกำเนิดมาจากที่ใดและสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้านั้นแตกต่างจากสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าอีกเครื่องหมายหนึ่ง
เสียงเรียกขานบางคำในเครื่องหมายการค้าซ้ำกันมิใช่เหตุให้เครื่องหมายการค้าเหมือนหรือคล้ายกันจนไม่อาจรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าให้ได้ เพราะการเรียกขานสินค้าย่อมจะขึ้นอยู่กับผู้บริโภคว่าจะเรียกขานเช่นใด ทั้งการเรียกขานก็ไม่ใช่สาระสำคัญประการเดียวที่จะใช้ในการพิจารณาว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์สามารถทำหน้าที่บ่งบอกว่า สินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของโจทก์มีแหล่งกำเนิดมาจากที่ใด และสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้านั้นแตกต่างจากสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าอีกเครื่องหมายหนึ่งเช่นใด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายของหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน และเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าอักษรโรมันคำว่า เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2547 โจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าว เพื่อใช้กับสินค้าจำพวก 25 รายการสินค้าต่างๆ แต่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้ามีคำสั่งว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว คือ เครื่องหมายการค้า WOW ทะเบียนเลขที่ ค 11114 และเครื่องหมายการค้า California Angels ทะเบียนเลขที่ ค 103658 โจทก์อุทธรณ์ คณะกรรมการเครื่องหมายการค้ามีคำวินิจฉัยยืนตามคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้า โจทก์ไม่เห็นด้วย เนื่องจากเครื่องหมายการค้าของโจทก์ไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว ขอให้เพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้า ที่ พณ 0704/5007 ลงวันที่ 9 กันยายน 2547 และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า ที่ 1571/2548 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2548 และให้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้ารับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ตามคำขอเลขที่ 555626 ของโจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า คำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าได้กระทำไปโดยสุจริต ภายในขอบเขตของกฎหมาย และถูกต้องแล้ว เครื่องหมายการค้าของโจทก์มีรูปลักษณะและเสียงเรียกขานใกล้เคียงกับเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว จนอาจทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของหรือแหล่งกำเนิดของสินค้า หลักฐานของโจทก์ยังไม่พอฟังได้ว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์ได้มีการโฆษณาหรือใช้มาเป็นเวลานานหรือมีความแพร่หลายแล้วในประเทศไทย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่ พณ 0704/5007 และ คำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าที่ 1571/2548 ที่ไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์และให้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าดำเนินการเกี่ยวกับคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ตามคำขอเลขที่ 555626 ต่อไป ให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 2,000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว คดีมีข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่าโจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพื่อใช้กับสินค้าจำพวก 25 รายการสินค้าต่างๆ ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.4 และ จ.14 แต่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้ามีคำสั่งว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว คือเครื่องหมายการค้าทะเบียนเลขที่ ค 11114 และเครื่องหมายการค้าทะเบียนเลขที่ ค 103658 ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.5 ถึง จ.7 โจทก์อุทธรณ์ ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.8 คณะกรรมการเครื่องหมายการค้ามีคำวินิจฉัยยืนตามคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้า ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.9 โจทก์ไม่เห็นพ้องด้วย เพราะเครื่องหมายการค้าของโจทก์ไม่เหมือนคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว โจทก์เคยยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์มาก่อนแล้วสำหรับสินค้าจำพวกอื่นปรากฏตามเอกสารหมาย จ.10 ถึง จ.13
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองมีว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว จนอาจทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของหรือแหล่งกำเนิดของสินค้าหรือไม่ โดยโจทก์มีนางสาวลักษณ์และนางสาวพัชรีย์เป็นพยานเบิกความว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์ไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว จนอาจทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของหรือแหล่งกำเนิดของสินค้า ส่วนจำเลยทั้งสองมีนางสาวนิดาและนายกนกเป็นพยานเบิกความว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์เหมือนคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว จนอาจทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของหรือแหล่งกำเนิดของสินค้า เห็นว่า หน้าที่หลักของเครื่องหมายการค้า คือ หน้าที่บอกแหล่งที่มาของสินค้า และหน้าที่บอกความแตกต่างระหว่างสินค้าหมายความว่า เครื่องหมายการค้าจะต้องบ่งบอกได้ว่า สินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวมีแหล่งกำเนิดมาจากที่ใด และสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้านั้นแตกต่างจากสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าอีกเครื่องหมายหนึ่ง ดังนั้น การที่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าหยิบยกเครื่องหมายการค้าหลายเครื่องหมายมาพิจารณาประกอบกันในการพิจารณารับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์เช่นนี้ ย่อมจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง และอยู่ภายใต้กรอบหน้าที่ของเครื่องหมายการค้า คดีนี้จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์มีอักษรโรมันคำว่า “California” และ WOW” ซึ่งเป็นคำเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว สาธารณชนคนไทยส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับภาษาต่างประเทศย่อมจะเกิดความสับสนหลงผิดได้ ข้อแตกต่างระหว่างเครื่องหมายเป็นเพียงรายละเอียดปลีกย่อยผู้บริโภคทั่วไปสังเกตเฉพาะส่วนสำคัญหรือส่วนหลักของเครื่องหมาย เมื่อมีคำบางคำในเครื่องหมายออกเสียงเหมือนกัน ก็แสดงว่าเสียงเรียกขานทั้งส่วนนั้นเหมือนกัน แต่เมื่อพิจารณาเครื่องหมายการค้าดังกล่าวแล้วจะเห็นได้ว่า อักษรโรมันคำว่า “California” และ WOW” เป็นคำสามัญทั่วไปที่มีความหมายในพจนานุกรม โดยคำว่า “California” เป็นชื่อมลรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนคำว่า “WOW” เป็นคำอุทานแสดงความสำเร็จยอดเยี่ยมบุคคลทั่วไปจึงสามารถนำไปใช้เป็นเครื่องหมายการค้าได้ตราบเท่าที่ไม่เป็นการลอกเลียนเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น หรือเหมือนหรือคล้ายกันจนเป็นเหตุให้สาธารณชนสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของหรือแหล่งกำเนิดของสินค้า เมื่อเครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นอักษรโรมัน
คำว่า ในขณะที่เครื่องหมายการค้าอื่นเป็นอักษรโรมันคำว่า WOW และคำว่า California Angels ซึ่งเมื่อพิจารณาต่อไปจะเห็นว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์ทั้งเครื่องหมายมีรูปลักษณะและเสียงเรียกขานแตกต่างจากเครื่องหมายการค้าทั้งสองเครื่องหมายที่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้ายกขึ้นมาเปรียบเทียบเป็นอย่างมาก เพราะเครื่องหมายการค้าของโจทก์มีส่วนอื่นๆประกอบนอกเหนือจากอักษรโรมันที่ซ้ำกันอยู่โดยไม่ใช่เป็นเพียงรายละเอียดปลีกย่อยตามที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ด้วย ดังนั้น ลำพังการที่เครื่องหมายการค้าเหล่านี้มีคำซ้ำกันอยู่บ้าง ซึ่งก็เป็นคำสามัญที่มีการใช้อยู่ทั่วไป ไม่ได้เป็นคำเฉพาะพิเศษเช่นใดจนถึงขนาดที่จะทำให้สาธารณชนโดยทั่วไปในสังคมไทยไม่รู้ไม่เข้าใจในคำดังกล่าว และทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของหรือแหล่งกำเนิดของสินค้าดังที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์แต่อย่างใด สำหรับในเรื่องเสียงเรียกขานนั้น การจะถือว่าเสียงเรียกขานบางคำซ้ำกันจะเป็นเหตุให้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวเหมือนหรือคล้ายกันจนไม่อาจรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าให้น่าจะไม่ได้ เพราะการเรียกขานสินค้าย่อมจะขึ้นอยู่กับผู้บริโภคว่าจะเรียกขานเช่นใด ทั้งการเรียกขานก็ไม่ใช่สาระสำคัญประการเดียวที่จะใช้ในการพิจารณา ถือว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์สามารถทำหน้าที่บ่งบอกว่า สินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของโจทก์มีแหล่งกำเนิดมาจากที่ใด และสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้านั้นแตกต่างจากสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าอีกเครื่องหมายหนึ่งเช่นใด ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัยมาจึงชอบแล้ว ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นๆ ตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองอีกต่อไป เพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ