แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่แก้ไขใหม่ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในคดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ ดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 137ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยว่า หากโจทก์เป็นผู้เช่านาพิพาทและมีสิทธิได้รับการซื้อนาพิพาทก่อนผู้อื่น สิทธิของโจทก์ก็ยังคงมีอยู่ตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ. 2524 มาตรา 58 แม้จำเลยทั้งห้าแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานที่ดินทำให้เจ้าพนักงานที่ดินหลงเชื่อว่าที่นาพิพาทไม่มีผู้เช่า เจ้าพนักงานที่ดินย่อมเป็นผู้เสียหาย โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้องโจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เห็นว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่แก้ไขใหม่ บัญญัติว่า “ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในคดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์” คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีโจทก์จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาโจทก์