คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2034/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกู้เงินโจทก์โดยโจทก์เรียกดอกเบี้ยร้อยละ 2.50 บาท ต่อสัปดาห์เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ดังนี้ ดอกเบี้ยนั้นตกเป็นโมฆะ โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะได้รับดอกเบี้ยนั้นตั้งแต่วันทำสัญญาแต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ไปจำนวนหนึ่ง ยังไม่ชำระและตามสัญญากู้ได้ระบุวันชำระหนี้ไว้โจทก์ชอบที่จะได้ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันผิดนัด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2514 จำเลยทำสัญญากู้ยืมเงินโจทก์7,500 บาท ยอมให้ดอกเบี้ยชั่งละหนึ่งบาทต่อเดือน กำหนดชำระคืนภายในวันที่ 5 ตุลาคม 2515 ถึงกำหนดแล้วจำเลยไม่ชำระเงินที่กู้และค้างดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2514 ถึงวันฟ้องเป็นเวลา 5 ปีเศษ โจทก์ขอคิดเอาเพียง 5 ปี เป็นเงิน 5,625 บาท ขอให้จำเลยชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยที่ค้าง

จำเลยให้การว่าได้กู้เงินโจทก์เพียง 1,300 บาท แต่โจทก์ลงในสัญญากู้ 7,500 บาท และโจทก์เรียกดอกเบี้ยร้อยละ 2.5 บาทต่อสัปดาห์ ซึ่งเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดเป็นโมฆะ จำเลยได้ชำระให้โจทก์ไปแล้ว 3,000 บาทเศษจำเลยได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อคณะปฏิวัติ โจทก์ได้ยอมรับชำระหนี้ตามความเป็นจริง สัญญากู้จึงระงับแล้ว

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ไปเพียง 1,300 บาท ยังไม่ชำระคืนโจทก์เรียกดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 2.5 ต่อสัปดาห์ เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดเป็นโมฆะ พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 1,300 บาทแก่โจทก์ คำขอนอกนั้นยก

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยชำระดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระให้โจทก์เสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ตามฎีกาโจทก์คดีมีปัญหาสู่ศาลฎีกาวินิจฉัยเฉพาะข้อกฎหมายเพียงประเด็นเดียวว่า โจทก์มีสิทธิที่จะได้รับดอกเบี้ยในอัตราตามที่ศาลอุทธรณ์กำหนดได้ตั้งแต่วันใด เห็นว่าดอกเบี้ยที่โจทก์คิดและเรียกร้องในอัตราร้อยละ 2.50 บาทต่อสัปดาห์เป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอันตราตามที่กฎหมายกำหนด โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะได้รับดอกเบี้ย อันตกเป็นโมฆะนี้ได้ตั้งแต่วันทำสัญญา เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ไปจริง 1,300 บาท และยังไม่ได้ชำระ ตามสัญญากู้ได้ระบุกำหนดวันชำระหนี้เงินกู้คืนภายในวันที่ 5 ตุลาคม 2515 เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดตามข้อตกลงที่ระบุไว้ จำเลยจึงตกเป็นผู้ผิดนัดแต่นั้นเป็นต้นมา โจทก์ชอบที่จะได้รับดอกเบี้ยในหนี้เงินจำนวนดังกล่าวแต่วันผิดนัดคือตั้งแต่วันถัดจากวันที่หนี้ถึงกำหนดชำระที่ศาลอุทธรณ์ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยให้โจทก์ตั้งแต่วันฟ้อง ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์นับตั้งแต่วันที่ 6ตุลาคม 2515 จนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้นี้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share