แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้นับแต่เวลาที่โจทก์ยื่นคำขออนุญาตก่อสร้างอาคารจนถึงเวลาที่โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ไม่อนุญาตให้โจทก์ก่อสร้างอาคารต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จะยังไม่มีประกาศกระทรวงมหาดไทยหรือข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครห้ามก่อสร้างอาคารในบริเวณที่โจทก์ประสงค์จะก่อสร้างก็ตาม แต่ตามกฎหมายที่ใช้ในขณะที่ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีจนถึงเวลาที่ศาลฎีกาพิพากษาคดีนี้ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง ใช้หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทริมถนนสุขาภิบาล 2ทั้งสองฟาก ฯลฯ และข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง ใช้หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ริมถนนสุขาภิบาล 2ทั้งสองฟาก ฯลฯ ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 9และมาตรา 13 แห่ง พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522ออกมาใช้บังคับโดยห้ามมิให้บุคคลใดทำการก่อสร้างอาคารในระยะ 15 เมตรจากเขตถนนทั้งสองฟากของถนนสุขาภิบาล 2 และยังมีผลใช้บังคับอยู่ ซึ่งรวมถึงบริเวณสถานที่ที่โจทก์ประสงค์จะก่อสร้างอาคารของโจทก์ศาลจึงไม่อาจพิพากษาบังคับให้เป็นไปตามคำขอของโจทก์อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายดังกล่าวได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ยื่นคำขออนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชย์และพักอาศัย แต่เจ้าพนักงานท้องถิ่นผู้กระทำการแทนจำเลยไม่ตรวจพิจารณาและออกใบอนุญาต กลับมีคำสั่งให้โจทก์แก้ไขเปลี่ยนแปลงแผนผังบริเวณ แบบแปลนทั้งที่ขณะนั้นมิได้มีกฎหมายบัญญัติไว้เช่นนั้น และต่อมาจำเลยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ก่อสร้างอาคาร ขอให้เพิกถอนคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ก่อสร้างอาคารพาณิชย์และพักอาศัยและให้จำเลยออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารตามคำขอของโจทก์
จำเลยให้การว่า ขณะที่โจทก์ยื่นคำขออนุญาตก่อสร้างนั้นมีข้อกำหนดของจำเลยห้ามมิให้บุคคลใดก่อสร้างอาคารตึกแถวภายในระยะ 15 เมตร จากเขตถนนทั้งสองฟากของถนนสุขาภิบาล 2 ต่อมาได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทยห้ามบุคคลใดก่อสร้างอาคารพาณิชย์ตึกแถวในระยะ 15 เมตรจากเขตถนนทั้งสองฟากของถนนสุขาภิบาล 2 เมื่อจำเลยขอให้โจทก์แก้ไขเปลี่ยนแปลงแผนผังบริเวณ แต่โจทก์ไม่ดำเนินการแก้ไข จำเลยจึงไม่สามารถออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารให้แก่โจทก์ได้ ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้นับแต่เวลาที่โจทก์ยื่นคำขออนุญาตก่อสร้างอาคารจนถึงเวลาที่โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ไม่อนุญาตให้โจทก์ก่อสร้างอาคารต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จะยังไม่มีประกาศกระทรวงมหาดไทยหรือข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ห้ามก่อสร้างอาคารในบริเวณที่โจทก์ประสงค์จะก่อสร้างอาคารก็ตาม แต่ตามกฎหมายที่ใช้ในขณะที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาคดีจนถึงเวลาที่ศาลฎีกาพิจารณาพิพากษาคดีนี้ ก็ปรากฏว่าได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลงใช้หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทริมถนนสุขาภิบาล 2ทั้งสองฟากในท้องที่ แขวงคลองจั่น แขวงคลองกุ่มแขวงคันนายาว เขตบางกะปิ และแขวงมีนบุรี เขตมีนบุรีกรุงเทพมหานคร และข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง ใช้หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ริมถนนสุขาภิบาล 2 ทั้งสองฟากในท้องที่แขวงคลองจั่น แขวงคลองกุ่ม แขวงคันนายาว เขตบางกะปิและแขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 9 และมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคารพ.ศ. 2522 ออกมาใช้บังคับ โดยห้ามมิให้บุคคลใดทำการก่อสร้างอาคารในระยะ 15 เมตร จากเขตถนนทั้งสองฟากของถนนสุขาภิบาล 2 และยังมีผลใช้บังคับอยู่ซึ่งรวมถึงบริเวณสถานที่ที่โจทก์ประสงค์จะก่อสร้างอาคารของโจทก์ด้วยศาลฎีกาจึงไม่อาจพิพากษาบังคับให้เป็นไปตามคำขอของโจทก์อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายดังกล่าวได้คดีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของโจทก์ในข้ออื่นอีกเพราะแม้จะวินิจฉัยต่อไปก็ไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น
พิพากษายืน