แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นการปลอมเลขหมายประจำเครื่องยนต์ และเลขหมายประจำตัวถังของรถจักรยานยนต์ของกลางโจทก์มีแต่คำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยมาแสดงต่อศาลเท่านั้น จะนำมาฟังลงโทษจำเลยไม่ได้ เป็นการพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์หาได้หยิบยกเอาเฉพาะแต่คำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยมาวินิจฉัยเท่านั้น แต่ยังนำพยานหลักฐานอื่นมาประกอบคำวินิจฉัยด้วยว่าจำเลยได้กระทำความผิดดังฟ้องจริง ฎีกาของจำเลยจึงเป็นเรื่องที่โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลล่างทั้งสอง อันเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๖๔, ๒๖๕ และคืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๖๔ วรรคแรก จำคุก ๒ ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑ ปี ๔ เดือนคืนรถจักรยานยนต์ของกลางแก่เจ้าของ คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกจำเลย ๑ ปี ๔ เดือน จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ วรรคแรก ที่จำเลยฎีกาโดยอ้างเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าคดีนี้ตามทางนำสืบของโจทก์ไม่มีประจักษ์พยานโจทก์ปากใดรู้เห็นการปลอมแปลงขูดลบแก้ไขเลขหมายประจำเครื่องยนต์และเลขหมายประจำตัวถังขอรถจักรยานยนต์ของกลาง โดยโจทก์มีแต่คำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยตามเอกสารหมาย ปจ.๕ มาสืบแสดงต่อศาลเท่านั้น ซึ่งคำรับสารภาพดังกล่าวเป็นพยานบอกเล่า ไม่มีน้ำหนัก จะนำมาฟังลงโทษจำเลยไม่ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองนำเอาคำรับสารภาพของจำเลยชั้นสอบสวนมาฟังลงโทษจำเลย จึงเป็นการพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญานั้น ศาลฎีกาได้ตรวจดูข้อนำสืบของโจทก์จำเลยและข้อวินิจฉัยของศาลล่างทั้งสองโดยตลอดแล้วเห็นว่าศาลล่างทั้งสองหาได้หยิบยกเอาเฉพาะแต่คำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยตามเอกสารหมาย ปจ.๕ มาวินิจฉัยคดีนี้ดังที่จำเลยกล่าวอ้างไม่ แต่ยังได้นำพยานหลักฐานอื่นที่โจทก์นำสืบอาทิ คำเบิกความของผู้เสียหาย มาประกอบการวินิจฉัยด้วยว่าจำเลยได้กระทำความผิดดังโจทก์ฟ้องจริง เมื่อเป็นเช่นนี้ฎีกาของจำเลยแท้จริงจึงเป็นเรื่องที่โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลล่างทั้งสองอันเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาจำเลย.