คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2026/2527

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์รู้แต่ต้นว่าถ้าสมัครสอบคัดเลือกเข้าเรียนก็ไม่สามารถสอบได้ และตนไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัท ห้างร้านที่มีสิทธิส่งเจ้าหน้าที่เข้าเรียนได้โดยไม่ต้องผ่านการสอบคัดเลือกการที่โจทก์มอบเงินให้แก่จำเลยก็โดยมีเจตนาจะให้จำเลยกระทำการทุจริตช่วยเหลือให้โจทก์เข้าเรียนได้โดยฝ่าฝืนระเบียบการเข้าเรียนของศูนย์ฝึกการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยอันถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ใช้ให้จำเลยกระทำผิด โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157,341

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าโจทก์ทั้งสองเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้องศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คงมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยในชั้นนี้ว่า โจทก์ทั้งสองเป็นผู้เสียหายตามกฎหมายหรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติตามคำวินิจฉัยของศาลล่างว่า โจทก์ทั้งสองทราบอยู่แล้วตั้งแต่ต้นว่าการเข้าเรียนที่ศูนย์ฝึกการบินพลเรือนในประเทศไทยนั้น จะต้องปฏิบัติตามระเบียบกล่าวคือ โจทก์ที่ 2 จะต้องสอบคัดเลือกเข้าเรียนหรือมิฉะนั้นจะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทห้างร้านที่มีสิทธิส่งเจ้าหน้าที่เข้าเรียนและบริษัทห้างร้านนั้น ๆ ส่งตัวเข้าเรียน โจทก์ก็รู้แต่ต้นว่าถ้าโจทก์ที่ 2 สมัครสอบคัดเลือกเข้าเรียนก็ไม่สามารถสอบเข้าเรียนได้ และโจทก์ก็รู้ว่าโจทก์ที่ 2 ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทห้างร้านที่มีสิทธิส่งเจ้าหน้าที่เข้าเรียนได้มาก่อนจะมีสิทธิเข้าเรียนได้โดยไม่ต้องผ่านการสอบคัดเลือก แต่โจทก์ทั้งสองก็ขวนขวายจะให้โจทก์ที่ 2เข้าเรียนที่ศูนย์ฝึกการบินพลเรือนในประเทศไทยให้ได้ โดยยอมปฏิบัติหรือใช้ให้ผู้อื่นปฏิบัติฝ่าฝืนระเบียบการเข้าเรียนของศูนย์ฝึกการบินพลเรือนในประเทศไทย ศาลฎีกาเห็นว่า ถึงหากโจทก์ทั้งสองจะได้มอบเงินให้แก่จำเลยไป โจทก์ทั้งสองก็มอบให้โดยมีเจตนาจะให้จำเลยกระทำการทุจริตช่วยเหลือให้โจทก์เข้าเรียนได้โดยฝ่าฝืนระเบียบการเข้าเรียนของศูนย์ฝึกการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย อันถือได้ว่าโจทก์ทั้งสองเป็นผู้ใช้ให้จำเลยกระทำความผิดโจทก์ทั้งสองจึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share