แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 3 รับประกันรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 1 ไว้รถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 1 จำเป็นต้องพ่วงสาลี่เพื่อความสะดวกในการบรรทุกของสาลี่ที่พ่วงอยู่กับรถยนต์บรรทุกย่อมถือเป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์บรรทุกด้วย เมื่อสาลี่ของรถยนต์บรรทุกที่จำเลยที่ 3 รับประกันเลื่อนหลุดมาทำให้รถยนต์ผู้อื่นเสียหายจำเลยที่ 3 จะอ้างว่าไม่ได้รับประกันสาลี่ด้วยเพื่อให้พ้นจากความรับผิดตามสัญญาประกันภัยหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ เป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์บรรทุกซึ่งจำเลยที่ ๓ เป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุน ลูกจ้างของจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ได้ขับรถยนต์บรรทุกดังกล่าวซึ่งบรรทุกสาลี่มาด้วยความประมาทเป็นเหตุให้สาลี่เลื่อนหลุดและเบียดชนรถยนต์เก๋งคันที่โจทก์รับประกันไว้เสียหาย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินค่าเสียหาย ๔๖,๗๙๕ บาทพร้อมดอกเบี้ย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ชำระเงินตามฟ้อง ส่วนจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ ๓ ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วมกับจำเลยที่ ๑ ด้วย
จำเลยที่ ๓ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ที่จำเลยที่ ๓ ฎีกาว่ารับประกันแต่เฉพาะตัวรถยนต์บรรทุก มิได้คุ้มครองไปถึงสาลี่ที่บรรทุกมากับรถยนต์บรรทุกการที่สาลี่ที่บรรทุกมากับรถยนต์บรรทุกเลื่อนหลุดไปและเฉี่ยวกับรถยนต์ที่โจทก์รับประกันได้รับความเสียหาย จำเลยที่ ๓ ไม่ต้องรับผิดชอบนั้น เห็นว่ารถยนต์บรรทุกของบางประเภทจำเป็นต้องพ่วงสาลี่เพื่อความสะดวกในการบรรทุกของ เมื่อสาลี่พ่วงอยู่กับรถยนต์บรรทุก ย่อมถือได้ว่าสาลี่เป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์บรรทุก การที่สาลี่ของรถยนต์บรรทุกคันที่จำเลยที่ ๓รับประกันเลื่อนหลุดมาทำความเสียหายแก่รถยนต์อื่นจำเลยที่ ๓ จะอ้างว่าไม่ได้รับประกันสาลี่ด้วยเพื่อให้หลุดพ้นจากความรับผิดหาได้ไม่
พิพากษายืน