แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
เอกสารที่จำเลยอ้างว่าเป็นหลักฐานการใช้เงิน โจทก์มิได้ทำขึ้นและมิได้ลงลายมือชื่อรับรู้ จำนวนเงินก็ไม่ตรงตามที่โจทก์ฟ้องทั้งไม่มีข้อความตอนใด กล่าวพาดพิง ถึงตัวโจทก์ เอกสารดังกล่าวเป็นเพียงเอกสารการคิดบัญชีระหว่างภริยาโจทก์กับจำเลยเท่านั้น ไม่มีความตอนใด ที่แสดงว่าภริยาโจทก์กระทำในนามของโจทก์หรือเป็นตัวแทนของโจทก์ เอกสารดังกล่าวจึงไม่เป็นหลักฐานการชำระหนี้ที่ลงลายมือชื่อโจทก์ผู้ให้ยืมตามความหมายแห่ง ป.พ.พ. มาตรา 653วรรคสอง.
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ และภริยาโจทก์ไปหลายครั้ง โจทก์และภริยาโจทก์เป็นตัวแทนซึ่งกันและกันเกี่ยวกับการให้กู้ยืมและรับเงินจำเลยได้ชำระหนี้ให้โจทก์และภริยาโจทก์ ซึ่งเป็นตัวแทนซึ่งกันและกันไปเสร็จสิ้นแล้วมีหลักฐานการชำระหนี้ตามเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 2
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ไปตามฟ้องจริง แต่ได้ชำระหนี้ให้โจทก์แล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยตามฟ้องแก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษาว่า “ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653วรรคสอง บัญญัติไว้ว่า “ในการกู้ยืมเงินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือนั้นท่านว่าจะนำสืบการใช้เงินได้ต่อเมื่อมีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ให้ยืมมาแสดง ฯลฯ” ได้ความว่าเอกสารหมายล.2 มิใช่เอกสารที่โจทก์เป็นผู้ทำขึ้นทั้งโจทก์มิได้ลงชื่อรับรู้ในเอกสารดังกล่าวนี้ด้วย แต่เป็นเอกสารการคิดบัญชีระหว่างภริยาโจทก์กับจำเลยจำนวนเงินก็ไม่ตรงตามที่โจทก์ฟ้อง ในเอกสารดังกล่าวไม่มีข้อความตอนใดที่แสดงว่าภริยาโจทก์กระทำในนามของโจทก์หรือเป็นตัวแทนโจทก์เลย ทั้งไม่มีข้อความตอนใดกล่าวพาดพิงถึงตัวโจทก์ด้วย ดังนั้นเอกสารดังกล่าวจึงเป็นเรื่องระหว่างภริยาโจทก์กับจำเลยเท่านั้นไม่มีผลผูกมัดตัวโจทก์ด้วย เอกสารหมาย ล.2 จึงไม่เป็นหลักฐานการชำระหนี้ที่ลงลายมือชื่อโจทก์ผู้ให้ยืมตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง จำเลยจึงต้องรับผิดชำระหนี้ให้โจทก์ตามฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ”.