แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรนั้น โจทก์ร่วมไม่ใช่เป็นผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานนี้โดยตรงจึงไม่ใช่ผู้เสียหาย
รอยบาดเจ็บเพียงโหนกแก้มถลอกโตกลมประมาณ 3 เซ็นติเมตรเข่าบวมโตกลมประมาณ 5 เซ็นติเมตร ข้อศอกหนังถลอกโตกลมประมาณ 5 เซ็นติเมตร รักษาประมาณ 4 วัน ยังไม่เป็นอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 390
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรและประมวลกฎหมายอาญามาตรา 390 ให้ปรับ 600 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า สำหรับความผิดพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 โจทก์ร่วมไม่ใช่ผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานนี้โดยตร งโจทก์ร่วมจึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) ไม่มีสิทธิฎีกา ขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดตามพระราชบัญญัติจราจร
สำหรับความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 390 นั้น ปรากฏว่านายวิชัยโจทก์ร่วมได้รับบาดเจ็บเพียงโหนกแก้มขวาหนังถลอกโตกลมประมาณ 3 เซ็นติเมตร เข่าขวาบวมโตกลมประมาณ 5 เซนติเมตร ศอกซ้ายรอยหนังถลอกโตกลมประมาณ 5 เซนติเมตร รักษาประมาณ 4 วัน ยังถือไม่ได้ว่านายวิชัยโจทก์ร่วมได้รับอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 390 เมื่อคดีไม่มีทางลงโทษตามมาตรา 390 ได้ ศาลฎีกาไม่จำต้องวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยประมาทหรือไม่
พิพากษายืน