คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2017/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมีความประพฤติดี เตือนผู้ตายภริยาจำเลยโดยดีผู้ตายปากจัดกล่าวอย่างสามหาวอวดดีว่า “มึงไม่ใช่พ่อกูอย่ามาสั่งสอนกู” จำเลยจึงตบผู้ตาย ผู้ตายกลับเอาปืนยิงจำเลยแต่ไม่ถูก จำเลยตามเข้าไปในห้อง ผู้ตายยังใช้มีดจะแทงจึงถูกจำเลยแทงถึงตาย พฤติการณ์ดังนี้ฟังได้ว่าเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะเนื่องจากถูกผู้ตายยั่วโทสะอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมและจำเลยกระทำโดยกระชั้นชิดนั้นเองไม่ใช่เป็นการป้องกันตัวเพราะขณะนั้นผู้ตายถูกจำเลยแย่งมีดจนมีดตกไปแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้มีดพกปลายแหลมแทงนางประพิศตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษ

จำเลยรับว่าแทงนางประพิศตายจริง แต่แทงโดยบันดาลโทสะ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249 ให้จำคุกตลอดชีวิตลดตามมาตรา 55 ประกอบมาตรา 38 คงจำคุกไว้ 10 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลฟังว่าต่างบันดาลโทสะเข้าวิวาทต่อสู้กันที่ศาลชั้นต้นว่าจำเลยกระทำไปเพราะถูกยั่วโทสะโดยโจทก์ไม่อุทธรณ์นั้นนับว่าเป็นผลดีแก่จำเลยอยู่แล้ว พิพากษายืน

แต่มีผู้พิพากษานายหนึ่งมีความเห็นแย้งว่าควรฟังว่าจำเลยกระทำโดยบันดาลโทษะ และนอกจากลดโทษตามมาตรา 55 แล้วควรลดโทษฐานรับสารภาพตามมาตรา 59 ให้อีกกึ่งหนึ่ง

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยเป็นคนมีความประพฤติดี ผู้ตายภริยาจำเลยเป็นคนปากจัด เหตุที่เกิดทำร้ายกันขึ้นเนื่องจากผู้ตายโกรธจำเลยซึ่งตักเตือนแต่โดยดีในฐานสามีหัวหน้าครอบครัวและผู้ตายกล่าวอย่างสามหาวอวดดีว่า “มึงไม่ใช่พ่อกู อย่ามาสั่งสอนกู” เมื่อถูกจำเลยตบหน้า ผู้ตายกลับเอาปืนมายิงจำเลยแต่ไม่ถูก จำเลยตามเข้าไปในห้องผู้ตายยังเอามีดจะแทงจำเลยอีกจึงถูกจำเลยแทงถึงตายพฤติการณ์ดังกล่าวฟังได้ว่าจำเลยกระทำไปโดยบันดาลโทสะ เนื่องจากถูกผู้ตายทำการยั่วโทสะอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมและจำเลยได้ทำร้ายผู้ตายไปในระยะกระชั้นชิดติดต่อกันนั้นเอง การกระทำของจำเลยไม่ใช่ป้องกันตัวเพราะขณะนั้นผู้ตายถูกจำเลยแย่งมีดจนมีดตกไปแล้ว

พิพากษาแก้ให้ลดโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 59 อีกกึ่งหนึ่งคงให้จำคุกจำเลย 5 ปี นอกจากนี้ยืน

Share