คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2015/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่ศาลล่างพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยฐานพยายามกระทำชำเราผู้เสียหายกระทงละ 4 ปี 8 เดือน รวม 8 กระทง เป็นโทษจำคุก 37 ปี 4 เดือน นั้นไม่ถูกต้องเพราะการวางโทษจำคุกเป็นปีทำให้จำเลยเสียเปรียบ ต้องรับโทษมากกว่าการวางโทษจำคุกเป็นเดือน ตาม ป.อ. มาตรา 21 วรรคสอง ศาลฎีกาย่อมแก้ไขให้ถูกต้องโดยพิพากษาแก้เป็นว่า จำคุกกระทงละ 4 ปี 8 เดือน รวม8 กระทงเป็นจำคุก 32 ปี 64 เดือน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย อายุ 12 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย ปลุกปล้ำ ต่างกรรมต่างวาระกัน รวม 8 ครั้งจำเลยได้กระทำไปตลอดแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผล เนื่องจากผู้เสียหายดิ้นต่อสู้ จำเลยจึงไม่สามารถสอดใส่อวัยวะสืบพันธุ์ของจำเลยเข้าไปในช่องคลอดของผู้เสียหายได้ และจำเลยได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายโดยการใช้กำลังประทุษร้ายปลุกปล้ำจนสำเร็จความใคร่1 ครั้ง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277, 80, 91
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา นางเล็ก พิมพ์โคตร มารดาผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 วรรคสอง มาตรา 277 วรรคสอง ประกอบมาตรา 80 ให้ลงโทษฐานกระทำชำเรา จำคุก 7 ปี ฐานพยายามกระทำชำเรา รวม 8 กระทง จำคุกกระทงละ 4 ปี 8 เดือน รวมจำคุกทั้งสิ้น 44 ปี 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…เมื่อศาลลงโทษจำคุกจำเลยฐานพยายามกระทำชำเราผู้เสียหาย กระทงละ 4 ปี 8 เดือน รวม 8 กระทง ก็ต้องกำหนดโทษเป็นจำคุก 32 ปี 64 เดือน ไม่ใช่ 37 ปี 4 เดือน เพราะการวางโทษจำคุกเป็นปีทำให้จำเลยเสียเปรียบ ต้องรับโทษมากกว่าการวางโทษจำคุกเป็นเดือน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 21 วรรคสอง ดังนั้นการที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามกระทำชำเราผู้เสียหายจำคุกกระทงละ 4 ปี 8 เดือน รวม 8 กระทงเป็นโทษจำคุก 37 ปี 4 เดือน รวมกับโทษฐานกระทำชำเราผู้เสียหายอีกกระทงหนึ่ง ซึ่งจำคุก 7 ปี รวมเป็นโทษจำคุก 44 ปี 4 เดือน จึงไม่ถูกต้อง สมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง”
พิพากษาแก้เป็นว่า ฐานพยายามกระทำชำเรา จำคุกกระทงละ 4 ปี8 เดือน รวม 8 กระทง เป็นจำคุก 32 ปี 64 เดือน รวมกับโทษฐานกระทำชำเราอีกกระทงหนึ่งซึ่งจำคุก 7 ปี เป็นโทษจำคุกทั้งสิ้น 39 ปี 64เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1.

Share