แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กุฏิพระเป็นเคหสถาน แต่ไม่ใช่สถานที่บูชาสาธารณะ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเข้าไปลักเครื่องปั้นดินเผาซึ่งเก็บไว้ภายในกุฏิวัดโปรดเกศเชษฐาราม อันเป็นสถานที่บูชาสาธารณะขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334, 335
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(9) ลงโทษจำคุก 2 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้เข้าไปลักเอาเครื่องปั้นดินเผาซึ่งเก็บไว้ภายในกุฏิของวัดโปรดเกศเชษฐารามตามฟ้อง แล้ววินิจฉัยในปัญหาข้อกฎหมายว่าคำว่า “กุฏิ” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 หมายความว่า “เรือนหรือตึกสำหรับพระภิกษุสามเณรอยู่” ดังนั้น กุฏิพระจึงเป็นเพียงที่อยู่อาศัยของพระภิกษุสามเณรเท่านั้น หาใช่สถานที่บูชาสาธารณะ แต่เป็น “เคหสถาน”ตามนัยมาตรา 1(4) แห่งประมวลกฎหมายอาญา การลักทรัพย์ในบริเวณกุฏิพระจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8)
พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา335(8) ให้จำคุก 2 ปี