แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำว่า”การกระทำผิดของเจ้าพนักงานอื่นใด” ตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2489 มาตรา 15(1) นั้นจะต้องเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติการในหน้าที่ แต่ปรากฏในคดีนี้ว่าจำเลยเป็นเพียงเจ้าพนักงานตำรวจมีหน้าที่แต่เฉพาะขับรถยนต์ของทางราชการเท่านั้น การที่จำเลยสมคบกับพวกขนย้ายข้าวออกนอกเขตห้ามขนย้ายทางทะเลและพยายามนำออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงมิใช่เป็นการกระทำที่เกี่ยวกับการปฏิบัติการหรือละเว้นการปฏิบัติการในหน้าที่ของจำเลยแต่ประการใด ความผิดของจำเลยจึงไม่ต้องด้วย มาตรา 15(1) แห่ง พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวที่แก้ไขดังกล่าว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นพลตำรวจขนย้ายข้าวสารออกนอกเขตห้ามขนย้ายทางทะเลและพยายามนำออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 มาตรา 10, 17, 15 พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2489 มาตรา 6, 7 ประกาศเกี่ยวกับการสำรวจและห้ามกักกันต่าง ๆ พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด กับขอให้จ่ายเงินรางวัลและริบของกลาง
จำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้ทำผิดตามฟ้อง
ศาลจังหวัดนราธิวาสพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2489 มาตรา 6 และ พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง พ.ศ. 2482 มาตรา 3, 9 ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2490 มาตรา 3 ให้จำคุก 12 ปี ตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2489 มาตรา 6 ของกลางตามบัญชีท้ายฟ้องให้ริบอันดับ 1 ถึง 10 นอกนั้นคืนเจ้าของ และให้จ่ายสินบนแก่ผู้นำจับกับเงินรางวัลแก่เจ้าหน้าที่ผู้จับ
จำเลยอุทธรณ์ โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยควรมีความผิดตามพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2489 มาตรา 7(1) ซึ่งมีโทษถึงจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยและโจทก์ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาคดีนี้แล้วเห็นว่าเหตุผลต่าง ๆ ตามฎีกาของจำเลยไม่เป็นทางให้ผืนความจริงไปได้ ศาลทั้งสองฟังข้อเท็จจริงมาชอบด้วยรูปความแล้วฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
ส่วนข้อที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 15(1) แห่งพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2489 ที่ใช้แทน มาตรา 15 พระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าว พ.ศ. 2489 ที่ยกเลิกโดยโจทก์เห็นว่าคำว่า “เจ้าพนักงานอื่นใด” ในมาตรานี้มีความหมายตลอดถึงเจ้าพนักงานเช่นจำเลยนี้ด้วยนั้น
ศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำผิดของเจ้าพนักงานตามมาตรา 15 ดังยกมากล่าวไว้ข้างบน จะต้องเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติการในหน้าที่ แต่จำเลยนี้ปรากฏว่ามีหน้าที่เฉพาะแต่ขับรถยนต์ของทางราชการเท่านั้น การที่จำเลยกระทำผิดในเรื่องนี้มิได้เกี่ยวกับการปฏิบัติหรือการละเว้นการปฏิบัติการในหน้าที่ของจำเลยแต่ประการใดความผิดของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติ มาตรา 15(1) แห่งพระราชบัญญัติสำรวจและห้ามกักกันข้าวที่แก้ไขดังที่โจทก์เข้าใจศาลทั้งสองวินิจฉัยมาถูกต้องแล้ว ฎีกาโจทก์ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์และจำเลย