แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สิ่งของที่จำเลยขายโดยไม่ปิดป้ายแสดงราคา ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการฯ ตามมาตรา 17 นั้น ไม่ใช่ของอันจะพึงริบตามมาตรา 29 ของอันพึงริบ จะต้องเป็นสิ่งของที่เกี่ยวกับการทำผิดในการค้ากำไรโดยตรง ตามมาตรา 18
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขายปลีกปลาหนึ่งไม่ปิดป้ายแสดงราคา ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการ ฯ เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยปลาทูนึ่ง ๘๘ ตัว เป็นของกลาง จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นปรับจำเลย ๑๐๐ บาท โดยลดกึ่งหนึ่งแล้วตามพ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร ๒๔๙๐ มาตรา ๘, ๑๗ ริบของกลาง ส่วนที่โจทก์ขอให้สั่งจ่ายเงินรางวัลผู้จับให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร ๒๔๙๐ มาตรา ๓๐ บัญญัติแต่ในเรื่องค่าสินบนนำจับ หาได้บัญญัติให้ยกเลิกเงินรางวัลผู้จับใน พ.ร.บ.ให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด ๒๔๘๙ ไม่ (ฎีกาที่ ๑๙๓๓/๒๔๙๒)
ส่วนปลาทูนึ่งของกลางที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้ริบมานั้น ศาลฎีกาได้วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า สิ่งของที่จะพึงริบตามมาตรา ๒๙ แห่งพ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร ๒๔๙๐ นั้น จะต้องเป็นสิ่งของที่เกี่ยวกับการกระทำผิดในการค้ากำไรโดยตรง หรืออีกนัยหนึ่งเป็นสิ่งของที่เกี่ยวกับการกระทำผิดตามมาตรา ๑๘ ส่วนสิ่งของที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดตามมาตรา ๑๗ คือกระทำฝ่าฝืนประกาศหรือคำสั่งของคณะกรรมการ ฯ หรือาพนักงานเจ้าหน้าที่นั้น ไม่ใช่ของอันจะพึงริบตามมาตรา ๒๙ ปลาทูนึ่งของกลางซึ่งจำเลยขายโดยไม่ปิดป้ายแสดงราคา เป็นการฝ่าฝืนประกาศฯ จึงไมใช่ของจะพึงริบตามมาตรา ๒๙
พิพากษาแก้ ให้จ่ายรางวัลร้อยละ ๒๐ ของค่าปรับตามมาตรา ๘ วรรค ๒ ประกอบด้วยมาตรา ๗ ส่วนปลาทูนึ่งของกลางให้คืนไป