คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 201/2487

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ไนสัญญาซื้อขายระบุว่าขายที่ดินกับสิ่งปลูกส้างบนที่ดินนั้น ย่อมครอบครองโรงเรือนที่ดินซึ่งเสาไม่ได้ฝัง+ด้วย
กรนีที่ถือว่าช่อไฟฟ้าที่ติดหยู่กับสิ่งปลูกสร้าง ไม่ไช่เปนเครื่องอุปรน์ซึ่งไม่ตก+ไปกับสิ่งปลูกส้างที่ขาย

ย่อยาว

โจทฟ้องเรียกช่อไฟฟ้าแก้วและทองเหลือง ๔ ช่อที่ประดับหยู่ที่ตึกและที่เรือนหอซึ่งได้ขายไห้แก่จำเลยไปพร้อมกับที่ดินโฉนดที่ ๗๐๔,๗๐๕ และเรียกเรือนไม้สักหนึ่งหลังอันตั้งหยู่ไนที่ดินที่ขายกันนี้ด้วย
ได้ความว่า ไฟช่อทั้งสี่ตามที่โจทฟ้องติดกับเพดานเดินสายไฟทสุเพดาน มีสวิชปิดเปิดได้ที่ตัวตึกมี ๓ ช่อคือที่ห้างรับแขก ห้องอาหานและห้องหนังสือ อีกหนึ่งซ่อหยู่ที่ห้องโรงเรือนหอ ส่วนเรือนไม้ดั้งหยู่บนที่ดินที่ทำสัญญาขายกันเสาไม่ได้ฝังดิน
สาลชั้นต้นพิพากสายกฟ้อง
สาลอุธรน์พิพากสายืน แต่มีความเห็นแย้งว่า ช่อไฟฟ้าเปนของมีราคาแพงโดยมากมีฉเพาะบ้านผู้มั่งคั่งประดับเพื่อความสวยงามเปนพิเสส สำหรับคดีนี้ไม่ได้ไช้เปนประจำ คงเปิดไฟไช้เปนบางคราว สแดงว่าไม่ได้เปนของไช้ประจำตึกและเรือนเปนอาจินเพื่อประโยชนแก่การจัดดูแลหรือไช้สอยหรือรักสาทรัพย์เปนประธานแต่หย่างได้ จึงไม่เปนเครื่องอุปกรณ์ตึกและเรือนหาตามประมวนกดหมายแพ่งและพานิชมาตรา ๑๑๐ ไม่ตกไปกับทรัพย์ที่โจทขายไห้จำเลย ควนต้องคืนไห้แก่โจท
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่า ช่อไฟฟ้ารายพิพาทไม่เปนเครื่องอุปกรน์ของทรัพย์ที่โจทขายไห้แก่จำเลย ส่วนเรือนไม้สักเห็ฯว่า เปนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินตามข้อความไนสัญญาซื้อขาย และไม่ปรากดว่าโจทยกเว้นไม่ขายสิ่งปลูกส้างแันนี้แก่จำเลย จึงต้องฟังว่าสัญญาซื้อขายทรัพย์คลุมถึงการขายเรือนไม้สักรายนี้ด้วย จึงพิพากสาแก้ไห้จำเลยคืนช่อไฟฟ้ารายพิพาทไห้แก่โจทตามฟ้องโดยไม่ไห้ขัดขวางไนการที่โจทจะถอดเอาไป หรือมิฉะนั้นไห้จำเลยไช้ราคา ๒,๑๐๐ บาทแก่โจท นอกนั้นยืนตามสาลอุธรน์

Share