คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2003/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน แต่ในชั้นศาลกลับนำสืบว่าไม่ได้ให้การรับสารภาพดังกล่าว ทั้งในชั้นศาลซึ่งโจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีเฮโรอีนยาเสพติดให้โทษไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย เดิมจำเลยก็แถลงยอมรับว่ามีเฮโรอีนไว้ในความครอบครอง แต่ต่อมาก็นำสืบปฏิเสธคำแถลงดังกล่าว เช่นนี้ไม่มีคำรับหรือคำแถลงรับของจำเลยไม่ว่าในชั้นจับกุมชั้นสอบสวนหรือในชั้นศาลอันจะเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีของศาลแต่ประการใด กรณีไม่มีเหตุบรรเทาโทษที่จะหยิบยกมาเป็นข้ออ้างเพื่อลดโทษให้แก่จำเลย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสามร่วมกันมีเฮโรอีนยาเสพติดให้โทษหนัก295 กรัมไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และริบของกลาง
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธเฉพาะจำเลยที่ 1 แถลงรับว่ามีเฮโรอีนของกลางไว้ในความครอบครอง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุกจำเลยทั้งสามตลอดชีวิต ของกลางริบ
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าลดโทษให้จำเลยที่ 1 หนึ่งในสามจำคุก 33 ปี 4 เดือนนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยที่ 2 ที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าสำหรับฎีกาของโจทก์ที่ขอมิให้ลดโทษแก่จำเลยที่ 1 นั้นได้ความว่าจำเลยที่ 1 ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิตแต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยที่ 1 ให้การรับในชั้นจับกุมชั้นสอบสวนและในชั้นพิจารณาของศาลว่าเฮโรอีนของกลางเป็นของตนคำรับของจำเลยที่ 1 จึงเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง พิพากษาแก้เป็นลดโทษให้จำเลยที่ 1 หนึ่งในสามคงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 33 ปี 4 เดือนจำเลยที่ 1 มิได้ฎีกาโจทก์ฎีกาขอมิให้ลดโทษให้แก่จำเลยที่ 1 ดังนั้นปัญหาตามฎีกาของโจทก์จึงมีว่าสมควรจะลดโทษให้แก่จำเลยที่ 1 หรือไม่เห็นว่าที่ปรากฏในบันทึกการจับกุมตามเอกสารหมาย จ.1 ว่าจำเลยทั้งสามรับสารภาพนั้นในชั้นศาลจำเลยที่ 1 กลับเบิกความว่าจำเลยที่ 1ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการตรวจค้นว่าเฮโรอีนของกลางมิใช่ของจำเลยทั้งสามแสดงว่าจำเลยที่ 1 หาได้ให้การรับในชั้นจับกุมไม่ส่วนในชั้นสอบสวนจำเลยที่ 1 ก็ให้การว่าจำเลยที่ 1 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับให้เขียนบันทึกตามเอกสารหมายป.จ.2 จำเลยที่ 1 กลัวจะได้รับอันตรายจึงจำต้องเขียนตามคำบอกของเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงอยู่ในตัวว่าในชั้นสอบสวน จำเลยที่ 1 ก็มิได้รับสารภาพสำหรับในชั้นศาลที่จำเลยที่ 1 แถลงรับว่ามีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองนั้น ก็ปรากฏจากการสืบพยานของจำเลยที่ 1 ว่าจำเลยที่ 1 มิได้ยอมรับว่าจำเลยที่ 1 มีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองดังที่ได้แถลงไว้จึงเป็นที่เห็นได้ว่าไม่มีคำรับหรือคำแถลงรับของจำเลยที่ 1 ไม่ว่าในชั้นจับกุม ในชั้นสอบสวนหรือในชั้นศาลอันจะเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีของศาลแต่ประการใดจึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษที่จะหยิบยกมาเป็นข้ออ้างเพื่อลดโทษให้แก่จำเลยที่ 1 ดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย
สำหรับฎีกาของจำเลยที่ 2 ที่ 3 นั้นศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าได้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 ดังฟ้อง
พิพากษาแก้เฉพาะโทษของจำเลยที่ 1 ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share