แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน แต่ในชั้นศาลกลับนำสืบว่าไม่ได้ให้การรับสารภาพดังกล่าว ทั้งในชั้นศาลซึ่งโจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีเฮโรอีนยาเสพติดให้โทษไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายเดิมจำเลยก็แถลงยอมรับว่ามีเฮโรอีนไว้ในความครอบครอง แต่ต่อมาก็นำสืบปฏิเสธคำแถลงดังกล่าว เช่นนี้ไม่มีคำรับหรือคำแถลงรับของจำเลยไม่ว่าในชั้นจับกุมชั้นสอบสวนหรือในชั้นศาลอันจะเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีของศาลแต่ประการใด กรณีไม่มีเหตุบรรเทาโทษที่จะหยิบยกมาเป็นข้ออ้างเพื่อลดโทษให้แก่จำเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันมีเฮโรอีนยาเสพติดให้โทษไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และริบของกลาง จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธเฉพาะจำเลยที่ 1 แถลงรับว่ามีเฮโรอีนของกลางไว้ในความครอบครองศาลชั้นต้นพิพากษา จำคุกจำเลยทั้งสามตลอดชีวิต ของกลางริบจำเลยทั้งสามอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้จำเลยที่ 1 หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 33 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์และจำเลยที่ 2ที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “สำหรับฎีกาของโจทก์ที่ขอมิให้ลดโทษแก่จำเลยที่ 1 นั้น ได้ความว่า จำเลยที่ 1 ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยที่ 1 ให้การรับในชั้นจับกุมชั้นสอบสวน และในชั้นพิจารณาของศาลว่า เฮโรอีนของกลางเป็นของตนคำรับของจำเลยที่ 1 จึงเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้างพิพากษาแก้เป็นลดโทษให้จำเลยที่ 1 หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยที่ 1มีกำหนด 33 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 1 มิได้ฎีกา โจทก์ฎีกาขอมิให้ลดโทษให้แก่จำเลยที่ 1 ดังนั้นปัญหาตามฎีกาของโจทก์ จึงมีว่าสมควรจะลดโทษให้แก่จำเลยที่ 1 หรือไม่ เห็นว่าที่ปรากฏในบันทึกการจับกุม ตามเอกสารหมาย จ.1 ว่า จำเลยทั้งสามรับสารภาพนั้นในชั้นศาลจำเลยที่ 1 กลับเบิกความว่า จำเลยที่ 1 ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการตรวจค้นว่า เฮโรอีนของกลางมิใช่ของจำเลยทั้งสาม แสดงว่าจำเลยที่ 1 หาได้ให้การรับในชั้นจับกุมไม่ส่วนในชั้นสอบสวนจำเลยที่ 1 ก็ให้การว่า จำเลยที่ 1 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับให้เขียนบันทึกตามเอกสารหมาย ป.จ.2 จำเลยที่ 1กลัวจะได้รับอันตรายจึงจำต้องเขียนตามคำบอกของเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงอยู่ในตัวว่าในชั้นสอบสวนจำเลยที่ 1 ก็มิได้รับสารภาพสำหรับในชั้นศาลที่จำเลยที่ 1 แถลงรับว่ามีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองนั้น ก็ปรากฏจากการสืบพยานของจำเลยที่ 1 ว่า จำเลยที่ 1 มิได้ยอมรับว่าจำเลยที่ 1 มีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองดังที่ได้แถลงไว้จึงเป็นที่เห็นได้ว่าไม่มีคำรับหรือคำแถลงรับของจำเลยที่ 1 ไม่ว่าในชั้นจับกุม ในชั้นสอบสวนหรือในชั้นศาลอันจะเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีของศาลแต่ประการใด จึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษที่จะหยิบยกมาเป็นข้ออ้างเพื่อลดโทษให้แก่จำเลยที่ 1 ดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยฎีกาของโจทก์ในปัญหาข้อนี้ฟังขึ้น”
……ฯลฯ……
พิพากษาแก้เฉพาะโทษของจำเลยที่ 1 ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์