แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การบรรยายฟ้องในข้อหาฐานเบิกความเท็จที่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้ง 3 สาบานตัวเข้าเบิกความในการพิจารณาของศาลในคดีแพ่งแดงที่ 300/2505 ว่า เมื่อ พ.ศ. 2503 จำเลยที่ 1มีเงินฝากอยู่ที่ธนาคารนครหลวงสาขาตาคลี และจำเลยที่ 1 ได้มอบสมุดเช็คอันมีชื่อจำเลยที่ 1 ลงชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายล่วงหน้าไว้ในเช็คให้แก่จำเลยที่ 2 เพื่อใช้สั่งจ่ายเงินค่าข้าวโพดที่โจทก์นำมาขายให้แก่จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ที่ 3 เบิกความร่วมกันว่าในเดือนตุลาคม 2503 จำเลยที่ 2 ได้ออกเช็คตามสมุดเช็คของจำเลยที่ 1 ดังกล่าว สั่งจ่ายเงินค่าข้าวโพดให้โจทก์และจำเลยที่ 3 แล้วจำเลยที่ 3 ยังได้นำเช็คไปรับเงินจากธนาคารนครหลวง สาขาตาคลี ได้เงินมา ซึ่งถ้อยคำเบิกความของจำเลยทั้ง 3 เป็นเท็จ โดยรู้ว่าไม่ใช่ความจริง และเป็นข้อความสำคัญแห่งคดี แต่เมื่อคิดบัญชีได้เอาเงินในการออกเช็คของจำเลยที่ 2 มาคิดรวมเงินของโจทก์ที่รับจากธนาคารแห่งนั้นด้วย จึงปรากฏเป็นเงินเกินตามเอกสารที่จำเลยที่ 1 ใช้ฟ้องเรียกเงินจากโจทก์ในคดีแพ่งดังกล่าวข้างต้น ขอให้ลงโทษตามมาตรา 177, 180, 83, 84, 86
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องประกอบคดีแพ่งแดงที่ 300/2505 แล้วเห็นว่าฟ้องเคลือบคลุมทั้งข้อความเกี่ยวกับเช็คไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์มิได้บรรยายระบุว่าเช็คกี่ฉบับ เลขที่ เท่าใด ออกวันที่เท่าใด สั่งจ่ายเงินวันที่เท่าใด เงินฉบับละเท่าใดสั่งจ่ายให้เท่าใด อย่างไร ยากที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดีเป็นฟ้องเคลือบคลุม พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า จำเลยที่ 1 ไม่เคยมีเช็ค และเบิกความลอย ๆไม่รู้ว่าเช็คเลขที่เท่าใดกี่ฉบับ เป็นเงินเท่าใด โจทก์ไม่สามารถกล่าวในฟ้องได้ และที่จำเลยที่ 1 เบิกความว่า ได้จ่ายเช็คและเงินสดให้โจทก์ ความจริงจำเลยที่ 1 ไม่มีเงินฝากที่ธนาคารนครหลวงเช็คก็ไม่เคยจ่ายให้โจทก์เลย จำเลยที่ 2 เบิกความว่า จำเลยเป็นผู้จ่ายเงินให้โจทก์หกเจ็ดหมื่นและชาวไร่ ความจริงจำเลยที่ 2 มีหน้าที่ตรวจรับข้าวโพดจากโจทก์ และส่งให้จำเลยที่ 1 เท่านั้นไม่ได้เป็นผู้จ่ายเงินให้โจทก์และชาวไร่เลย ที่จำเลยที่ 2 เบิกความจึงเป็นเท็จจำเลยที่ 3 เบิกความว่าหน้าเช็คเป็นหนังสือจีน ข้างหลังเป็นลายเซ็นของโจทก์ แต่ความจริงจำเลยที่ 1 ไม่เคยจ่ายเช็คของธนาคารนครหลวงให้โจทก์เลย ที่จำเลยเบิกความดังกล่าวเป็นเท็จฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) แม้โจทก์ไม่สามารถบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับเช็คได้ดังฎีกาโจทก์ก็ตามแต่จำเลยคนใดเบิกความเท็จในข้อใด โจทก์มิได้กล่าวให้ชัดแจ้ง ดังที่ยกขึ้นมาบรรยายในฎีกาเลย คงบรรยายรวม ๆ กันมาว่าจำเลยทั้ง 3 เบิกความเท็จ และจำเลยที่ 1 ที่ 2 เบิกความร่วมกันเป็นเท็จเท่านั้น เป็นการยากที่จำเลยแต่ละคนจะเข้าใจข้อหาตามฟ้องของโจทก์ได้ดีว่าตนเบิกความในข้อใดบ้างที่เป็นเท็จ จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม พิพากษายืน