แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทรัพย์สินที่ภรรยาได้มาโดยมารดายกให้ในระหว่างสมรสย่อมเป็นสินสมรส
โจทก์ฟ้องขอแบ่งสินสมรสของบิดามารดาจากจำเลย จำเลยต่อสู้ว่ามิใช่เป็นสินสมรสของบิดามารดา แต่เป็นสินสมรสของจำเลยกับสามีดังนี้แม้จะได้ความว่าทรัพย์นั้นเป็นของบิดามารดา แต่เมื่อมารดายกให้จำเลยแล้วศาลก็ย่อมฟังในข้อยกให้เป็นข้อสนับสนุนข้อต่อสู้ของจำเลยได้ไม่เป็นการนอกประเด็น
ย่อยาว
คดีมีปัญหาขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะสำนวนนางเพ็งโจทก์นางกลมจำเลยคดีนี้โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยเป็นบุตรนายเรืองนางหมา เมื่อนายเรืองนางหมาวายชนม์แล้วจำเลยครอบครองทรัพย์มรดกเสียผู้เดียว จึงฟ้องขอแบ่งกึ่งหนึ่ง
จำเลยให้การว่า เรือนและยุ้งข้าวนั้นมิใช่สินสมรสของนายเรืองนางหมา เป็นสินสมรสของจำเลยกับนายลอยสามีมีขึ้นระหว่างเป็นสามีภรรยากัน ส่วนเกวียนจำเลยซื้อมาจากผู้มีชื่อ 30 ปี เศษแล้ว
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงตามจำเลย พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เรือนและยุ้งเป็นทรัพย์ ของนายเรืองนางหมาจำเลยต่อสู้ว่าเป็นสินสมรสของจำเลยจึงไม่มีประเด็นไปถึงว่า นางหมาได้ยกให้จำเลยหรือเปล่าจึงพิพากษาแก้ให้ประมูลหรือขายทอดตลาดเรือนและยุ้งข้าวแบ่งคนละกึ่ง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เรือนและยุ้งข้าวนั้น ฟังได้ว่านางหมายกให้แก่จำเลยแล้วฉะนั้นเรือนและยุ้งข้าวจึงไม่ใช่สินสมรสของนายเรืองนางหมาดังฟ้องของโจทก์และเห็นว่าข้อที่นางหมายกให้จำเลยนี้ เป็นประเด็นข้อสนับสนุนคดีฝ่ายจำเลย เพราะเมื่อนางหมายกให้จำเลยแล้วก็ย่อมเป็นสินสมรสของจำเลยกับสามี จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องนางเพ็งโจทก์เสีย