แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การไต่สวนมูลฟ้อง ฟ้องมีมูลฤาไม่เปนปัญหาข้อกฎหมาย (เทียบฎีกาที่ 123/67)
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องว่าโจทย์ได้ขายฝากนาไว้ต่อมารดาจำเลย แต่โจทย์คงปกครองนาอยู่และได้ส่งดอกเบี้ยทุกปี บัดนี้จำเลยไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานที่ดินว่า จำเลยปกครองนามากว่า ๑๐ ปีแล้ว ขอให้แก้ทะเบียนเปนชื่อนางก้าวจำเลย เจ้าพนักงานหลงเชื่อและแก้ให้ จึงขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๘,๖๓,๓๐๔
ศาลจังหวัดอยุธยานัดไต่สวนมูลฟ้องและสอบถามโจทย์ถึงใบรับเงินในการส่งดอกเบี้ยให้แก่จำเลย โจทย์แถลงว่าไม่มีใบรับ ศาลจึงเห็นว่า การส่งดอกเบี้ยแก่กันตามกฎหมายให้มีใบรับแสดงจึงจะฟังได้และไม่ควรสืบพยานบุคคลลบล้างข้อกฎหมาย จึงฟังว่าที่นารายนี้ยังคงขายฝากจำเลยอยู่ตามข้อสัญญา การที่จำเลยไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานจึงไม่เปนความเท็จที่จะกล่าวหากันในทางอาญา จึงสั่งยกข้อหาเสีย โจทย์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลจังหวัด
โจทย์ฎีกาว่าฟ้องของโจทย์มีมูลเปนฟ้องได้ตามกฎหมาย
ฎีกาเห็นว่า เรื่องใบรับเงินตามที่ศาลล่างกล่าวไม่ฟังว่าได้เสียดอกเบี้ยแก่กันก็จริงอยู่ แต่ใช้สำหรับการชำระหนี้สินต่อกัน แต่เรื่องนี้ข้อเท็จจริงควรสืบว่าที่ดินนั้นอยู่แก่ใคร สำหรับจะได้รู้ว่าเปนการขายฝากฤาจำนองเพื่อจะได้รู้เกณฑ์ว่ายังอยู่ในเวลาไถ่ถอนได้ฤาไม่ประการใด เมื่อโจทย์ฟ้องว่าจำเลยกล่าวเท็จว่าตนได้ปกครองจึงเปนข้อสำคัญของคดีซึ่งนับว่าเปนการเสียหายตามกฎหมาย จึงให้ศาลล่างไต่สวนคดีนี้แล้วทำคำสั่งต่อไป